โซเชียลจวกยับ เป็นตำรวจทำผิดกฎหมายเสียเอง รถสายตรวจจอดคร่อมบนทางเท้า ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ น้อมรับผิด สั่งปรับพลขับ 500 บาท ย้ำไม่มีอภิสิทธิ์ชน ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์แชร์ภาพรถยนต์สายตรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ จอดคร่อมบนทางเท้า หน้าร้านเครื่องเขียนแห่งหนึ่งใกล้แยกหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถมยังจอดในช่วงเวลา 08.40 น. ซึ่งเป็นเวลาห้ามจอด ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กลับทำผิดกฎหมายเสียเอง

ต่อมาเพจ Bhubing Police ของ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้โพสต์ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยยอมรับว่าพลขับได้จอดรถในลักษณะที่ผิดกฎหมายตามภาพจริง โดยได้เปรียบเทียบปรับพลขับนายนี้ไปแล้วเป็นเงิน 500 บาท พร้อมกับน้อมรับผิดในการกระทำดังกล่าว และขอขอบคุณประชาชนพลเมืองดีที่ได้เป็นหูเป็นตา ช่วยสอดส่องดูแลช่วยเหลือ แจ้งเหตุ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ชี้แจงเรื่องนี้ ว่า จากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ใช้ในราชการของสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ ทะเบียน 6 กง 7698 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 08.40 น. ส.ต.ต.ภูวดล กันทา พลขับรถสายตรวจ ได้ขับรถยนต์สายตรวจคันนี้ไปจอดบนทางเท้าซึ่งเป็นสถานที่ห้ามจอด อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ และ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ

...

หลังภาพนี้ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ได้เรียก ส.ต.ต.ภูวดล มาสอบถามและเจ้าตัวยอมรับว่าได้ขับรถออกตรวจปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาได้แจ้งให้ซื้อของใช้ในสำนักงาน เพื่อมาใช้ในสถานีตำรวจ ด้วยความรีบเร่งเพื่อจะไปทำหน้าที่ต่อ จึงนำรถไปจอดตามที่ปรากฏในภาพ และลงไปซื้อของ ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมายจราจร ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับจึงได้เปรียบเทียบปรับ เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท สั่งปรับในข้อหา พ.ร.บ.ความสะอาดฯ ที่มีอัตราโทษสูง 500 บาท และจะพิจารณาดำเนินการทางวินัยตามระเบียบต่อไป


พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ประชาชนทั่วไป ในการใช้รถใช้ถนนก็จะต้องปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะตำรวจเองก็จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนเพราะเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับนโยบายของผู้บังคับบัญชาก็ได้เน้นย้ำให้ตำรวจปฏิบัติตามกฎจราจรให้เป็นแบบอย่างกับประชาชน ยืนยันไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน.