ศาลยกฟ้องชั้นไต่สวนมูลฟ้อง "วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ" ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย ในคดีฟ้องหมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเคลื่อนไหวแบน 3 สารเคมีอันตราย เป็นบรรทัดฐานทางวิชาการ
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.64 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีหมายเลขดำ อ.642/2564 ระหว่างนางจรรยา มณีโชติ ในฐานะนายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย โจทก์ กับ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอ ไทย (Bio Thai) จำเลย ในฐานความผิดหมิ่นประมาท และนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีเพจ BIOTHAI เผยแพร่ข้อความโต้แย้งกลุ่มคัดค้านการแบนสารพิษ ในประเด็นความอันตรายของสารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ สารพาราควอต, สารคลอร์ไพริฟอส, ไกลโฟเซต และในกรณีที่นายวิฑูรย์ ระบุผ่านสื่อถึงสาเหตุที่ทำให้เชื่อได้ว่ากลุ่มองค์กรที่ค้านการแบนสารพิษอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทสารเคมี
ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา และนัดฟังคำสั่งในวันนี้ โดยในวันนี้ นายวิฑูรย์ ได้เดินทางมาที่ศาล พร้อมกับนายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ

...
นายรัษฎา ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลพิจารณายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโดยเหตุผลของศาลที่นำมาสู่การยกฟ้องในวันนี้ ก็คือ เรื่องที่นายวิฑูรย์ให้สัมภาษณ์หรือการโพสต์ข้อความนั้นเป็นประเด็นเชิงวิชาการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อยุติว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ส่วนในประเด็น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ศาลมองว่าไม่ใช่การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงพิพากษายกฟ้อง
ทนายความ กล่าวต่อว่า ส่วนความกังวลว่าฝ่ายโจทก์จะยื่นอุทธรณ์ต่อนั้น ส่วนตัวคิดว่าเมื่อเขาไม่เห็นด้วย เขาก็ใช้สิทธิอุทธรณ์ไป จำเลยยังคงยืนหยัดที่จะทำหน้าที่ของตนเอง ในฐานะที่เป็นมูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ตามวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมความรู้วิชาการเกษตรกรและปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและเกษตรกร ไม่ใช่เป็นเรื่องการแสวงหาผลกำไร ยังทำหน้าที่ต่อไป

ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ทีมทนายความ ซึ่งทุกท่านมีประสบการณ์ต่อสู้คดีความเพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ประเด็นที่ทีมทนายความยกขึ้นมาต่อสู้ มีเหตุผลหนักแน่น ซึ่งตนเชื่อมั่นตั้งแต่ต้นแล้วว่าเหตุผลที่เราเอาความจริง และความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ พึงได้รับการคุ้มครอง และศาลก็ได้วินิจฉัยยืนยันในเรื่องนี้แล้ว
"คดีนี้เป็นการฟ้องเพื่อปิดปากนักวิชาการ ไม่ให้ออกมาแบนสารเคมี 3 ชนิดที่เราออกมาเรียกร้องเพื่อป้องกันอันตรายจากสารเคมี และเรียกร้องให้มีการบริหารจัดการกับสารเคมีอย่างถูกต้องเหมาะสม อันเป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการเท่านั้น บรรทัดฐานในเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักวิชาการทั้งหลาย ที่กำลังศึกษาผลกระทบจากศาลเคมีก็ดี หรือผลกระทบเรื่องอื่นใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสิ่งแวดล้อม ท่านสามารถที่จะพูดความจริง เผยแพร่ข้อมูล และแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ โดยควรจะได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกัน" นายวิฑูรย์ กล่าว
ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวอีกว่า ขอย้ำว่าในส่วนของมูลนิธิชีววิถี และเครือข่ายเตือนภัยเคมีกำจัดศัตรูพืช ยังคงยืนยันที่จะทำหน้าที่ต่อไป เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดการสารเคมีอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการใช้อยู่ และมีผลกระทบต่อผู้คน ให้ได้รับการจัดการที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทั้งหมดร่วมกัน.