ครอบครัวยังติดใจคดีไฮโซแบงค์ กัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย ส่งแชตไลน์พี่สาวเร่งให้ลูกน้องทำงานให้พนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี ยันผู้ตายถนัดมือขวา แต่มีดอยู่มือซ้าย จี้ให้สอบพยานทุกคนใหม่ ด้าน ผกก.สน.ทองหล่อ เผยมีดที่ใช้ก่อเหตุพบดีเอ็นเอผู้ตาย ขณะที่รองโฆษก บช.น.ยันเหมือนเดิม ไฮโซสาวฆ่าตัวตาย

กรณีพ่อแม่และน้องสาวของ นางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ ไฮโซแบงค์ อายุ 51 ปี เจ้าของธุรกิจสถาบันความงามชื่อดัง “อิมเมจินี่ และเดซี่ ดีว่าคลินิก" มากกว่า 10 สาขา ได้ชื่อว่าอยู่เบื้องหลังความงามของดารา เซเลบริตี้ นักธุรกิจชื่อดังในเมืองไทยหลายคน เสียชีวิตที่บ้านพักในซอยสุขุมวิท 23 ช่วงค่ำวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา สภาพศพขณะพบมีร่องรอยถูกของมีคมบาดที่ลำคอ และที่แขน ผลการชันสูตรจากแผนกนิติเวช รพ.จุฬาฯ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากสำลักโลหิตจากบาดแผลบริเวณลำคอ แต่ผลตรวจไม่ได้ชี้ชัดว่าบาดแผลนั้นเกิดจากการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม เบื้องต้นตำรวจสรุปสาเหตุเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ปักใจเชื่อ ที่ผ่านมา เข้าพบพนักงานสอบสวน และ ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีหลังรอคอยมานานเกือบ 100 วัน ยังไม่สรุปสาเหตุการตาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม 2564 นายไตรรัตน์ ณ พัทลุง อายุ 80 ปี นางแกมกาญจน์ ณ พัทลุง อายุ 78 ปี น.ส.กิรัติมา ณ พัทลุง อายุ 45 ปี พ่อแม่และน้องสาวไฮโซแบงค์ กัลยรัตน์ อัตรเดชเดชาชัย พร้อมนายเกรียงศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเสียชีวิตของนางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ ไฮโซแบงค์ เจ้าของธุรกิจคลินิกเสริมความงามชื่อดัง

น.ส.กิรัติมา ณ พัทลุง น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี โดยมีเอกสารต่างๆ มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เช่น แชตไลน์ (LINE) สั่งงานของพี่สาว พูดคุยกับลูกน้องกระตุ้นให้มีการทำงานก่อนเสียชีวิต ช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวครอบครัวยังไม่เชื่อว่าพี่สาวจะฆ่าตัวตาย แม้จะมีการแจ้งผลชันสูตรศพพี่สาวให้ทราบแล้ว แต่ผลไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน ขอให้ตำรวจมีการเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องทุกปากพิสูจน์ หาข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด

...

ด้านนายเกรียงศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ ทนายความ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์มาแจ้งผลการชันสูตรศพของผู้เสียชีวิตเบื้องต้นให้ทราบแล้ว แต่แพทย์ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการถูกฆาตกรรมหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่าก่อนเสียชีวิต เมื่อเวลา 14.51 น. วันที่ 3 ก.ย.วันเกิดเหตุ ไฮโซแบงค์ยังมีการสั่งงานลูกน้อง กระตุ้นลูกน้องให้ทำงานตามปกติ หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไป พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธมีด 2 เล่ม คือ มีดทำครัว และมีดคัตเตอร์ ที่พบในจุดเกิดเหตุไม่สอดคล้องกับลักษณะการเสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นคนถนัดขวา แต่พบว่ามีดอยู่ด้านซ้ายในลักษณะชี้เข้าหาตัว เป็นการวางอยู่แบบผิดปกติ

ขณะที่ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก มีทั้งแพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่ร่วมกันชันสูตรศพ และคนสนิทของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังได้รับผลชันสูตรศพแจ้งให้กับญาติผู้เสียชีวิตทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนผลการตรวจที่เกิดเหตุก็ได้รับแล้วเช่นกัน เบื้องต้น มีด 2 เล่ม คือ มีดทำครัว และมีดคัตเตอร์ ตรวจพบเพียงดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตเท่านั้น ไม่มีของบุคคลอื่นและไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ห้องน้ำก็พบว่าถูกล็อกจากภายใน ส่วนสามีผู้เสียชีวิตพบว่ามีหลักฐานชัดเจน ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ภายในบ้านพัก ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ และบัตรเครดิต มีการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หลังจากสอบปากคำน้องสาว พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตครบถ้วน คาดว่าจะสามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ในสัปดาห์หน้า

วันเดียวกันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองโฆษก บช.น. กล่าวถึงการความคืบหน้าตรวจสอบคดีการเสียชีวิตนางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ ไฮโซแบงค์ เจ้าของธุรกิจด้านความงามชื่อดังท้องที่ สน.ทองหล่อ ว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้ช้า ทำตามกรอบระยะเวลา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างรอผลการข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และกำลังตรวจสอบอย่างละเอียด ตอนนี้ยืนยันในเหตุผลเดิมว่าฆ่าตัวตาย แต่ต้องดูองค์ประกอบอื่นว่าจะมีพิรุธสงสัยอีกหรือไม่ พนักงานสอบสวนออกหมายพยาน 3 ปากมาสอบปากคำ แต่พยานได้ขอเลื่อน