พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีต รอง ผบ.ตร.เปิดใจทำคดีเสือดำ ยอมรับกดดัน ส่วนเรื่องก้มไหว้ เจ้าสัวเปรมชัย ไม่ทำให้กฎหมายเปลี่ยน รวยจนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

กรณี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน ตกเป็นผู้ต้องหาในฐานความผิดหลังร่วมกันเข้าไปล่าเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาพิพากษาสั่งจำคุก นายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน และพวกอีก 2 คน

เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2564 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีต รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีล่าเสือดำ เปิดใจต่อสื่อมวลชน หลังถูกครหาเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ว่ามีความเกรงใจโดยยกมือไหว้และอาจจะแอบให้การช่วยเหลือในทางคดีกับ นายเปรมชัย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อสังคม เปิดเผยว่า ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือจน ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ในเมื่อกระทำความผิด การจะไหว้หรือไม่ไหว้ก็ไม่ส่งผลทำให้กฎหมายเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และพยานแวดล้อมอย่างชัดเจน เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้มีการฟ้องร้องกลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะคนทำสำนวนได้ทำอย่างรอบคอบ รัดกุม ถึงแม้ว่าในที่เกิดเหตุจะมีเพียงซากเสือ เศษเนื้อ หนังเสือ แต่เราก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า รอยกระสุนปืน อาวุธปืน รวมถึงพยานหลักฐานต่างๆ สอดคล้องกัน

...

แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกดดันในการทำคดี เพราะช่วงแรกมีพยานหลักฐานน้อย อีกทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวก็มีความกดดันสูง แต่เมื่อตำรวจทำสำนวนส่งฟ้องอัยการและอัยการสั่งฟ้องตามที่ตำรวจดำเนินการมา ก็ถือประสบผลสำเร็จในคดีนี้ ส่วนคำพิพากษาจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ไม่สามารถกำหนดได้

หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีล่าเสือดำ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าว ถือว่าสามารถนำมาเป็นแบบอย่างให้กับตำรวจรุ่นน้องในการวางแนวทาง กับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยฝากถึงเจ้าหน้าที่ทุกนาย อย่าทำงานตามกระแส ส่วนใครจะมามีกระแสดราม่า ตนไม่รับรู้ เพราะตนใช้เพียงโทรศัพท์มือถือที่ใช้แค่โทรเข้า-ออก ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเข้มแข็งและรักกันมากๆ สำหรับคดีอาวุธและคดีงาช้าง เป็นอีกคดีหนึ่งที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เกิดทีหลังคดีเสือดำจะมีการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยต่อหากพ้นโทษมาออกมา

***แฟ้มภาพ***
***แฟ้มภาพ***

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวนายเปรมชัยจะโกรธเคืองหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีนี้ทำไปตามพยานหลักฐานและทำตามหน้าที่ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า นายเปรมชัยจะโกรธเคืองตนหรือไม่