โฆษก อสส. เผย ศาลฎีกาสั่งจำคุกเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน คดีเสือดำ ถือว่ากระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น ชี้ การได้ประจักษ์พยานและวัตถุพยาน ทำให้สำนวนละเอียดรัดกุม ศาลได้มีคำพิพากษาตามที่อัยการสั่งฟ้อง

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงผลคดีของนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกคดีฆ่าเสือดำ

นายอิทธิพร เปิดเผยว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 อัยการจังหวัดทองผาภูมิได้ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1, นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2, นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาอื่น ๆ อีกหลายข้อหา

ซึ่งต่อมาวันที่ 19 มี.ค. 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจําคุกนายเปรมชัย กรรณสูต นายยงค์ โดดเครือ จำคุก 16 เดือนจําคุก 13 เดือน นางนที เรียนแสน และนายธานี ทุมมาศ จำคุก 4 เดือนและปรับ 10,000 บาท รอการลงโทษ 2 ปี จําคุก 2 ปี 17 เดือน โดยยกฟ้องจําเลยบางข้อหา โดยเฉพาะนายเปรมชัย ศาลยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติและข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง  (เสือดำ) แทน

ต่อมาวันที่ 24 พ.ค. 2562 อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการโจทก์ทุกข้อหา และต่อมาวันที่ 12 ธ.ค. 2562 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคน ตามที่พนักงานอัยการศาลสูงภาค 7 ยื่นอุทธรณ์โดยจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน จำคุก นายยงค์ 2 ปี 17 เดือน จำคุกนางนที 1 ปี 8 เดือน รอการลงโทษให้ตามศาลชั้นต้น และจำคุกนายธานี 2 ปี 21 เดือน หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนตามที่พนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์แล้วอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 จึงมีคำสั่งไม่ฎีกาครั้งต่อมาวันที่ 31 มี.ค. 2563 จำเลยจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายเปรมชัย นายยงค์ และนายธานี ได้ยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาและอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้แก้ฎีกาเรียบร้อยแล้ว

...

นายประยุทธ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้ศาลฎีกาได้พิจารณาแล้วได้มีคำพิพากษาวันนี้ (8 ธ.ค. 64) ดังนี้ ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น และไม่มีเหตุต่อการรอการลงโทษ แต่ต่อมาได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ตาม ป.อาญา มาตรา 2 คงจำคุกจำเลยที่ 1 คงจําคุก 2 ปี 14 เดือนจำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 17 เดือน จำเลยที่ 4 คงจำคุก 2 ปี 21 เดือน ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ ทั้งนี้ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้วถือว่า กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น 

เมื่อถามว่า หลักฐานสำคัญที่ทำให้นำมาสู่บทสรุปของคำตัดสินวันนี้คืออะไร รองโฆษกฯ กล่าวว่า จากที่ได้ดูข้อมูลคดีนี้มาแต่ต้น ตั้งแต่สำนักอัยการทองผาภูมิได้รับเรื่อง หลักฐานสำคัญที่ทำให้สำนวนแน่นหนา ประการแรกคือ ประจักษ์พยาน คือผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ถูกสอบอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ประการถัดมา คือ วัตถุพยาน ได้แก่ ซากสัตว์ทั้งหลาย อาวุธปืน เครื่องใช้เครื่องครัว ซึ่งทั้งหมดทำให้นำไปสู่การทำสำนวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน รอบคอบและรัดกุม และวันนี้ก็ได้พิสูจน์ทั้งสามศาลว่า ศาลได้มีคำพิพากษาตามที่พนักงานอัยการสั่งฟ้อง.