เกิดเหตุสลด เมื่อลูกเขยโหดใช้ค้อนทุบหัวแม่ยายวัย 88 เสียชีวิต ก่อนจะเดินไปใช้ไม้หน้าสามฟาดหัวญาติพิการ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนตัวเองก็กระโดดลงจากชั้น 2 ของบ้านหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ดันไม่ตายกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุริยา ยอดวงษ์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พ.ต.ท.บุญมี ไทยอ่อน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พนมไพร พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ทรงอาษา สารวัตร (สอบสวน) สภ.พนมไพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจ สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ได้รุดไปเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ที่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 2 บ้านหนองผือ ต.โพธิ์ชัย อ.พนมไพร ซึ่งเป็นบ้านของ นางทองสุก แก้วศรีสุข อายุ 88 ปี
ภายหลังจาก นางทองสุข ถูกนายสายทอง โสดา ซึ่งเป็น ลูกเขยแท้ๆ อายุ 72 ปี ใช้ค้อนตีตะปูกระหน่ำตีศีรษะหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นนายสายทองยังได้ใช้ไม้หน้าสามยาวประมาณ 70 ซม. กระหน่ำตีนายพงษ์ศักดิ์ พงษ์นิกรณ์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน และพิการ อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 2 บ้านหนองผือ ต.โพธิ์ชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย
หลังก่อเหตุ นายสายทอง ก็หลบหนีไป ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าใครเป็นผู้ทำร้าย จนกระทั่งนายสายทองทราบว่าแม่ยายเสียชีวิต จึงคิดฆ่าตัวตายโดยกระโดดลงจากชั้น 2 ของบ้านถึงสองครั้ง จนกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอดได้รับบาดเจ็บสาหัส
ซึ่งในครั้งแรกญาติของผู้ตายทราบว่า ลูกเขยเป็นผู้ก่อเหตุ แต่พยายามจะให้การช่วยเหลือ โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ายายเดินหกล้มเอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ด้วยบาดแผลจากการชันสูตรของแพทย์ว่าบาดแผลเกิดจากการถูกทำร้าย ประกอบกับยายอายุมากแล้วเดินไม่ได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ยายจะสะดุดล้ม จนสอบเค้นกระทั่งญาติจึงยอมเปิดปากว่าลูกเขยแท้ๆ เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
...
โดยเหตุการณ์สลดนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 พ.ย. 2564 มีลูกหลานไปพบร่างของ นางทองสุก แก้วศรี ถูกตีเลือดแดงฉานทั่วศีรษะและพื้น ขณะนอนเล่นอยู่กับพื้นคอนกรีตหน้าบ้าน นอกจากนั้นยังพบว่าเลือดกระเซ็นไปถูกม้าหินอ่อนอีกด้วยจึงรีบแจ้ง 1669 ขอความช่วยเหลือให้นำนางทองสุก ส่งโรงพยาบาลพนมไพร แต่เนื่องจากอาการสาหัส แพทย์จึงส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ในเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้รับแจ้งอีกว่าห่างจากบ้านนางทองสุข ประมาณ 50 เมตร พบร่าง นายพงษ์ศักดิ์ พงษ์นิกรณ์ ซึ่งเป็นผู้พิการทางขา ถูกตีด้วยไม้หน้าสามที่บริเวณศีรษะจนเลือดเปื้อนที่นอนอยู่บนฟูกใต้ถุนบ้าน ญาติจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพนมไพร แต่อาการสาหัสแพทย์จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และในเวลาต่อมา นางทองสุก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา
ซึ่งต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. วันเดียวกัน (30 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมไพร ก็ได้รับแจ้งว่ามีคนกระโดดลงจากบ้านเพื่อฆ่าตัวตาย ที่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 2 บ้านหนองผือ ซึ่งเป็นบ้านของนายสายทอง โสดา ลูกเขยของนางทองสุกนั่นเอง ญาติได้นำส่งโรงพยาบาลพนมไพรแล้ว แต่เนื่องจากอาการสาหัส เพราะกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด แพทย์จึงส่งไปรักษาต่อยัง รพ.ร้อยเอ็ด
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สอบถามจากญาติหลายๆ คน จนทราบว่า นายสายทอง คือผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในครั้งแรกมีญาติบางคนที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ แต่พยายามจะช่วยเหลือโดยบอกว่ายายล้มเอง จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า นายสายทอง เป็นผู้มีนิสัยอารมณ์ร้อน วู่วาม โดยก่อนเกิดเหตุได้ถือค้อนตีตะปูและไม้หน้าสามเดินไปยังบ้านของแม่ยาย เมื่อพบว่าแม่ยายกำลังนอนเล่นอยู่หน้าบ้านก็ไม่พูดอะไรได้กระหน่ำตีอย่างไม่ยั้ง ซึ่งบ้านของนายสายทองอยู่ห่างจากบ้านแม่ยายไปด้านทิศตะวันออกประมาณ 100 เมตร
จากนั้น นายสายทอง ก็เดินจะกลับไปบ้านได้ประมาณ 50 เมตร ระหว่างทางก็พบ นายพงษ์ศักดิ์ ผู้บาดเจ็บนอนอยู่บนฟูกใต้ถุนบ้าน ก็ได้ตรงเข้าไปใช้ไม้กระหน่ำตี นายพงษ์ศักดิ์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุเนื่องจากยังอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลร้อยเอ็ด แต่จากการสอบถามเพื่อนบ้านหลายคนบอกว่า สาเหตุเหตุน่าจะเกิดจากนายสายทอง เป็นผู้ที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวโกรธง่าย หากใครพูดไม่พอใจก็จะเป็นคนวู่วาม อาจจะเคยถูกแม่ยายต่อว่าจึงเกิดความแค้น และอีกเรื่องหนึ่งก็อาจจะเกิดจากกรณีการแบ่งปันมรดกภายในครอบครัวที่ไม่ลงตัวกัน อาจจะเป็นชนวนในการก่อเหตุก็เป็นได้ ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนต่อไป