***แฟ้มภาพ***

ศาลไต่สวนนัดเเรก คดีถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหายาเสพติด "อดีตผู้กำกับโจ้" ปฏิเสธข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามมาตรา 289 วอนศาลเมตตา ทำไปเพื่อต้องการขยายผลยาเสพติด ไม่มีเจตนาเรียกรับเงินจากผู้ตาย


เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกรวม 7 คนใน 4 ข้อหา ล่าสุดวันนี้นัดสอบคำให้การในคดีร่วมกันใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายจิระพงษ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตในบ้านกาแฟ ภายใน สภ.เมืองนครสวรรค์

โดยศาลอนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามการพิจารณาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากการสังเกตการณ์พบว่า จำเลยทั้ง 7 คน มีสีหน้าท่าทางปกติ ส่วนแม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่มารับฟังการพิจารณาอยู่อีกห้องหนึ่ง มีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด ขณะที่พ่อและแม่ของนายจิระพงษ์ หรือมาวิน ต่างแต่งตั้งทนายความ ร่วมเป็นโจทก์ในคดีนี้ด้วย

เมื่อผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์ได้แจ้งสิทธิต่อจำเลย และสั่งให้มีเพียงทนายความ และตัวจำเลย อัยการโจทก์ และเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์อยู่ภายในห้องเท่านั้น ก่อนที่จะอ่านคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 7 ฟัง โดย พ.ต.อ. ธิติสรรค์ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในความผิดฐาน เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 และ มาตรา 172 ตาม พ.ร.ป. และรับสารภาพในฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น แต่ปฏิเสธตามข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามมาตรา 289

โดยแถลงต่อศาลว่า "ตนเองและลูกน้องไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่ต้องการขยายผลการจับกุมยาเสพติด ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม ยืนยันมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่มีเจตนากระทำการทุจริตใดๆ ต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลเงินจากผู้ตาย จึงขอความเมตตาต่อศาล"

...

ส่วนจำเลยที่เหลือ ต่างให้การรับและปฏิเสธข้อหาแตกต่างกันไป โดยทุกคนต่างอ้างว่า กระทำการไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และไม่มีเจตนาที่จะประสงค์ต่อชีวิตของผู้ตาย

โดยขณะนี้ศาลอยู่ระหว่างนัดวันตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยาน