ผู้การเมืองนนท์ เอาจริงระดมกำลังกวาดล้างแก๊งแว้นบนท้องถนน จับรถ จยย. 165 คัน ผู้ต้องหาชายหญิง 110 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ท่อไอเสียเสียงดัง 110 อัน ขยายผลร้านรับแต่งซิ่ง แอดมินชวนนออกทริป สร้างความเดือดร้อนรำคาญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าดูโฮม สาขาบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.สมุทร เกตุยา รรท.ผกก.สภ. บางบัวทอง แถลงข่าวจับเด็กแว้นยึดรถจักรยานยนต์ 165 คัน ว่า
ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 สั่งการด้วยปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งเป็นจำนวนมาก ชักชวนกันโดยอ้างเป็นการออกทริปเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อีกทั้งมีนโยบายให้ดำเนินการกับร้านซ่อมรถซึ่งมีการแต่งรถซิ่ง หรือโรงงานที่มีการลักลอบผลิตท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม
...
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า จึงได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วย ให้ความสำคัญและใส่ใจกับการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี จึงเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมความคิดและสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี วางแผนจับกุมเด็กแว้นที่รวมกลุ่มกันแข่งรถในทาง ในระหว่างวันที่ 11-20 พฤศจิกายน 2564 สามารถจับกุมผู้ขับขี่ ผู้ซ้อนท้าย และผู้สนับสนุนทั้งรวมทั้งหมดจำนวน 110 คน เป็นชาย 103 คน หญิง 7 คน ดำเนินการตรวจหาสารเสพติด ไม่พบสารเสพติด และทำประวัติทั้งหมด ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 165 คัน ท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวน 110 ชิ้น
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวอีกว่า โดยแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 88 คน 2. ขับรถย้อนศร จำนวน 49 คน 3. ขับรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 59 คน 4. อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ จำนวน 108 คน ส่วนที่เหลือพบว่าเป็นผู้ซ้อนท้าย ไม่พบว่ามีความผิดจึงไม่แจ้งข้อกล่าวหา
โดยตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี จะสืบสวนขยายผลต่อไปในเรื่องรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดมานั้น ผู้ขับขี่ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ การแต่งรถซิ่ง แต่งมาจากสถานที่ใด อีกทั้งหากมีการชักชวนผ่านทางโซเชียลมีเดีย ก็จะทำการ สืบสวนให้ได้ความว่า แอดมินเพจคือผู้ใด และเจ้าหน้าที่จะขยายผลเพื่อดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่อไป