ลูกวัย 61 เครียดทะเลาะกับพ่อวัย 88 ปี เป็นประจำ ก่อนยั้งใจไม่อยู่คว้าปืนกระหน่ำยิงระยะเผาขน 4 นัดดับคาที่ ก่อนหลบหนี ตำรวจออกหมายจับ คาดไปกบดานอำเภอนาทวีบ้านของน้องชาย
เมื่อกลางดึกวันที่ 15 พ.ย.64 ร.ต.ท.กฤษดา หมุนมิตร ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 7 หมู่ 4 ซอยคงทรัพย์ 2 ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ทราบ พร้อมสั่งการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน.สภ.หาดใหญ่ ก่อนประสานกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสงขลา แพทย์เวรโรงพยาบาลหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณที่จอดรถหน้าบ้านพัก พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายพิศ กุลดำรงวิวัฒน์ อายุ 88 ปี นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด ตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิตถูกยิงเข้าบริเวณทั้ง 2 ข้าง จนทำให้เสียเลือดเยอะและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบโดยรอบพบปลอกกระสุนปืน .45 และหัวกระสุนปืน .45 ตกอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายเสรีย์ กุลดำรงวิวัฒน์ อายุ 61 ปี หลังก่อเหตุลูกชายก็ได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน
จากการสอบถาม เพื่อนบ้าน เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้นั่งทำงานอยู่ภายในบ้าน จากนั้นลูกชายผู้ตายได้ขับรถเข้ามาพร้อมกับเสียงตะโกนว่าอะไรไม่รู้ได้ยินไม่ถนัด ตนจึงได้พาลูกไปเรียนออนไลน์ห้องด้านหลังก่อนปิดห้องเปิดแอร์ ต่อมาตนได้ยินเสียงดังปังซึ่งคล้ายเหมือนเสียงปืนประมาณ 4-5 ครั้ง ตนก็คิดว่าลูกชายคงเอาไม้มาเคาะกำแพง ที่ผ่านมาลูกชายมักจะทะเลาะกับพ่ออยู่เป็นประจำ บางครั้งก็เอาขวดเบียร์มาปาใส่กำแพง บางครั้งก็เอาไม้มาเคาะ ตนก็เลยเฉยๆ ไป ก่อนจะมาทราบว่าลูกชายได้ยิงพ่อตัวเองเสียชีวิตแล้ว
...
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ลงบันทึกหลักฐานเรียบร้อยก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนลูกชายผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูเส้นทางที่ใช้หลบหนี ก่อนเร่งติดตามจับกุมตัวลูกชายที่ยิงพ่อตัวเองเสียชีวิต มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาศาลจังหวัดสงขลา ได้ออกหมายจับ นายเสรีย์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้วเนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจน โดยแจ้งข้อหาดำเนินคดี 3 ข้อหา คือฆ่าบุพการี มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับ นายพิศ ผู้ตายมีลูกทั้งหมด 7 คน เป็นผู้ชาย6 คนหญิง1คน โดยนายเสรีย์ คนยิงเป็นลูกคนที่ 3
น.ส.เสาวลักษณ์ เพิงคาม อายุ 40 ปี ภรรยานายเสรีย์ ที่อยู่ขณะเกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายเสริย์ ได้ชับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากทำงาน เมื่อมาถึงบ้าน มีปากเสียงทะเลาะกับพ่อ จึงใล่ให้ตนเองกลับขึ้นไปอยู่ในห้องนอนชั้น 2 กับลูกชายวัย 5 ขวบ หลังจากนั้นไม่นานได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด เมื่อลงมาดูพบว่านายพิศถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ส่วนนายเสริย์ ได้ชับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป