เปิดแล้วตำรวจไซเบอร์ที่ขอนแก่น จับนักเลงคีย์บอร์ด-ขบวนการหลอกลวงประชาชน ทั่วทั้งภาคอีสาน "บิ๊กแจง" ย้ำชัดทุกเรื่องต้องตรวจสอบ โดยเฉพาะกลโกงของมิจฉาชีพผ่านโซเชียลและมือถือ
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2564 ที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บก.สอท.3) ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น, นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 สำนักงานภูมิภาค จ.ขอนแก่น ชั่วคราว สำหรับการให้บริการประชาชน และการตรวจติดตามการกระทำความผิดตามนโยบายของรัฐบาล, ความมั่นคงและการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดียต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมแสดงความยินดีและร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า สำหรับ บก.สอท. 3 ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.ขอนแก่น จะทำหน้าที่ในการตรวจติดตามและจับกุมผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ เพจ เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ภาคอีสานของไทย โดยเฉพาะในด้านของความมั่นคงและนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตำรวจไซเบอร์อีสานจะเฝ้ารังตรวจจับการกระทำความผิด หรือที่เรียกว่ามอนิเตอร์โซเชียลทุกแพลตฟอร์มในระดับพื้นที่ตลอดทั้ง 24 ชม. โดยมีพนักงานสอบสวน รวมทั้งชุดสืบสวนสอบสวนประจำการในพื้นที่รับผิดชอบ ในการที่จะประสานการทำงานร่วมกันตำรวจท้องที่และหน่วยงานต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังและติดตามจับกุม ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์กลโกงในรูปแบบต่างๆ เพื่อไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยช่องทางทางเทคโนโลยีเข้ามากระทำความผิดในพื้นที่
...

“จะเห็นได้ว่ากลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพและพฤติกรรมที่พบในพื้นที่ภาคอีสานนั้น จะเป็นไปในรูปแบบของการ่างข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือมาหลอกลวงและเชิญชวนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะกับการลงทุน หรือการให้สินเชื่อ รวมไปถึงกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์มาหลอกลวงประชาชนเพื่อให้เกิดการหลงเชื่อและมีการโอนเงินไปในลักษณะต่างๆ ซึ่งทั้งหมดจะถูกตำรวจไซเบอร์อีสาน ที่ตั้งอยู่ที่ขอนแก่น ทำการเฝ้าระวังและตรวจติดตามพฤติกรรม เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนพบว่า กลุ่มมิจฉาชีพที่ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ นั้นมีการเช่าเหมาจ่าย ค่ายมือถือเพื่อส่งข้อความประชาสัมพันธ์ จนเกิดการหลงเชื่อว่ามีอยู่จริง” ผบช.สอท. กล่าว

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ คณะทำงานกับเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องและเต็มที่แล้ว ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อกับการกระทำความผิดทางอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกแพลตฟอร์มสามารถที่จะเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่ บก.สอท.3 ขอนแก่น ได้ทุกวัน โดยจะมีพนักงานสอบสวนรับเรื่อง และส่งต่อให้ชุดสืบสวนแต่ละพื้นที่ เร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิด โดยถือเป็นการให้บริการประชาชนแบบลดขั้นตอน และเสร็จสรรพภายในจุดเดียว ไม่ต้องลำบากเดินทางไปที่กรุงเทพฯ เหมือนที่ช่วงที่ผ่านมา

ผบช.สอท. กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้ กองบังคับการตำรวจไซเบอร์ภาคอีสานได้เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อฯทุกแพลตฟอร์ม แม้กระทั่งการติดป้ายตามสี่แยกไฟแดง หรือการประสานงานร่วมกับผู้นำท้องถิ่นในการแจ้งเตือนพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพ และกลโกงในรูปแบบต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมช่องทางการติดต่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อสกัดกั้นกลุ่มมิจฉาชีพที่เป็นคนร้ายที่แฝงตัวมาในโซเชียลมีเดียที่จะต้องถูกจับกุมทั้งหมด