พบศพทารก อายุประมาณ 4-5 เดือน ทิ้งถังขยะหน้าอาคารพาณิชย์ ในซอยเทียนทะเล ย่านบางขุนเทียน สอบสวนพบสาว 16 ตกเลือด-ไหลไม่หยุด นายจ้างพาส่ง รพ. พยาบาลสงสัยกินยาทำแท้ง จึงเกลี้ยกล่อมจนยอมบอกความจริง เบื้องต้นตำรวจคาดทารกเสียชีวิตในครรภ์-เป็นการแท้งปกติ ขอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 พ.ย.64 พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีผู้พบศพเด็กทารก บริเวณถังขยะภายใน ซ.เทียนทะเล 7 แยก 3 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ อปพร.เขตบางขุนเทียน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์จำหน่ายนมเปรี้ยว ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด อนาวิลพาณิชย์ 2019 พบศพทารกเพศชาย อวัยวะครบถ้วน ไม่มีสายรกติดอยู่ อายุประมาณ 4-5 เดือน มีเศษขยะปิดบังทับไว้ อยู่ในถังขยะสีเงินใบเล็กหน้าอาคารดังกล่าว
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ อปพร.เขตบางบอน ผู้พบศพ เล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ รพ.บางปะกอก 8 กระทั่งมีรถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาภายในโรงพยาบาล ก่อนที่จะขอให้ช่วยเหลือพาเด็กสาวรายหนึ่ง อายุ 16 ปี เข้าไปหาหมอเนื่องจากมีประจำเดือนและเลือดไหลไม่หยุด หลังจากนั้นไม่นานพยาบาลได้แจ้งกลับมาว่า ให้ช่วยไปดูที่บ้านของเด็กหญิงคนดังกล่าว เนื่องจากคาดว่าสาเหตุที่เลือดไหลไม่หยุดนั้น เกิดจากการกินยาเพื่อทำแท้ง โดยคาดว่าศพของเด็กอาจถูกทิ้งไว้ในห้องน้ำหรือสถานที่ใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ อปพร.เขตบางบอน เล่าอีกว่า จึงพาบุคคลที่นำตัวเด็กหญิงมาส่งโรงพยาบาล ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นนายจ้าง กลับไปยังบ้านหลังดังกล่าวเพื่อหาร่างเด็กทารก เมื่อไปถึงก็เข้าไปตรวจสอบภายในห้องน้ำของตัวบ้าน พบเพียงลิ่มเลือดและคราบเลือดจำนวนหนึ่งบริเวณท่อน้ำทิ้ง แต่ไม่พบศพทารก จึงสอบถามกลับมายังโรงพยาบาลเพื่อให้เด็กหญิงบอกว่า นำร่างเด็กทารกไปทิ้งที่ใด หลังจากที่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นาน เด็กหญิงคนดังกล่าวบอกว่าได้ทิ้งศพเด็กไว้ในถังขยะ จึงรื้อถังขยะก็พบศพเด็กจริง ก่อนจะรีบแจ้งไปยังสำนักงานเขตบางขุนเทียน และตำรวจ สน.ท่าข้ามให้เข้ามาตรวจสอบ
...
ด้าน พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นแพทย์ชันสูตรคาดว่า ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เป็นการแท้งตามปกติ แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนตัวเด็กหญิงขณะนี้จะให้พักรักษาตัวก่อน หากอาการดีขึ้นก็จะสอบปากคำเพื่อสรุปสาเหตุในครั้งนี้ต่อไป