ดีเดย์ 15 พฤศจิกายนนี้ ตำรวจเอาจริง บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น เอาผิดไรเดอร์ฝ่าฝืนกฎจราจร ประชาชนส่งคลิปมีรางวัลให้ ที่ 1 ได้สองหมื่นบาท
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) เชิญหน่วยงานราชการ บริษัทที่ให้บริการขนส่งด้านอาหารและสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็น แกร็บ ฟู้ดแพนด้า ไลน์แมน โรบินฮู้ด ลาล่ามูฟ เครือข่ายด้านความปลอดภัยบนท้องถนน รวมทั้งสื่อในด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุ มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน
โดยมีเป้าหมาย เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากปัญหาไรเดอร์ หรือ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่งอาหาร ขับขี่ไม่ปลอดภัย จนเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และได้รับการร้องเรียนจากประชาชน
ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจจะเอาผิดทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ปรับไม่เกิน 1,000 บาท) ขับรถย้อนศร (ปรับไม่เกิน 500 บาท) ขับรถบนทางเท้า (ปรับตาม พ.ร.บ.จราจรฯ 400-1,000 บาท และปรับตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ไม่เกิน 5,000 บาท) รวมถึงการขับรถปาดซ้ายปาดขวา ซึ่งเป็นการขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว (ปรับ 400-1,000 บาท)
นอกจากการออกใบสั่งตามปกติแล้ว หากพฤติการณ์การกระทำผิดข้างต้นดังกล่าวมีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หรือประชาชนทั่วไป ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกับที่ใช้ดำเนินคดีกับแก๊งรถซิ่ง มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000-10,000 บาท ขณะเดียวกันในคดีที่ส่งฟ้องศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอศาลให้ริบรถของกลางด้วย
...
วิธีการตรวจจับการกระทำผิด 5 วิธี
ไล่เรียงไปตั้งแต่ จับซึ่งหน้าเมื่อกระทำความผิด ส่งสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่จุดเสี่ยงที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร ใช้กล้องของตำรวจ กล้องของกรุงเทพมหานคร และกล้องตำรวจทางหลวง ตรวจสอบหาการกระทำความผิด สุดท้ายคือ เปิดรับแจ้งเบาะแสจากประชาชน เช่น เบาะแสจากกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากมือถือ
ด้านความร่วมมือ กทม. ในการติดตามผู้กระทำผิดกฎหมาย จะบังคับใช้กฎหมายการขับรถบนทางเท้า มีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และกรมการขนส่งทางบกจะกำกับดูแลการจัดตั้งวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ จดทะเบียนขึ้นเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ รวมทั้งบริษัทด้านการขนส่งสินค้าและอาหารเดลิเวอรี จะใช้มาตรการองค์กรในการกำกับดูแลผู้ขับขี่ในสังกัดให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดย ตร.ประสานข้อมูลประวัติการกระทำผิด ข้อมูลการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้บริษัทคัดกรองผู้ขับขี่ที่มีคุณภาพและปฏิบัติตามกฎจราจร และบริษัทฯ จะเพิ่มหมายเลขพนักงานหลังเสื้อบริษัท
นอกจากนี้ยังสร้างช่องทางให้ประชาชนสามารถส่งคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพเหตุการณ์การกระทำผิดกฎหมายจราจร และมีพฤติการณ์การขับขี่ที่ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น เพื่อให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยสามารถส่งคลิปให้กับศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., จส.100, สวพ.91 และมูลนิธิเมาไม่ขับ
โดยจะมีการมอบรางวัลให้กับเจ้าของคลิปการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวทุกเดือน เดือนละ 10 รางวัล รางวัลที่ 1 จำนวน 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลที่ 3 จำนวน 6,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลชมเชย (7 รางวัล) จำนวน 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
ทั้งนี้ทางตำรวจจะเริ่มต้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มใช้อย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้ง ประสานกรมการขนส่งทางบกในกรณีที่ได้รับใบสั่ง เพื่อไม่ให้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปี จนกว่าจะเสียค่าปรับ
ท้ายที่สุดนี้...คงต้องมารอดูกันว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ หรือ "บิ๊กเด่น" ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) จะสามารถแก้ไขปัญหาจราจร เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนได้หรือไม่
แต่ทว่าถ้าหากเจ้าหน้าที่ยังทำหน้าที่หย่อนยาน ตัวคนใช้รถยังขาดวินัยแล้วล่ะก็ คงไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาวว่า ปัญหาดังกล่าวจะเป็นอย่างไร? เชื่อว่าใครหลายคนน่าจะรู้คำตอบอยู่แก่ใจ...
ที่มาข้อมูล : ทีมงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ