ลูกสาวปล่อยโฮ ลั่นขอให้ประหารชีวิต "ไอ้เมี้ยก ห้วยนาง" ฆาตกรสุดโหด ฆ่าตัดคอพ่อและภรรยาหลุดจากร่าง ดับคาบ้าน ยันไม่ต้องมาขอขมาศพเพราะไม่ให้อภัย เพราะพฤติกรรมติดยาหนัก เคยไล่ฟันไล่แทงชาวบ้านมาก่อน และตนก็รู้จักมือมีดรายนี้มาตั้งแต่เด็ก ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด ด้านลูกเขยเชื่อหลอนยานรกจนเกิดความระแวงและคิดไปเองว่าโดนกลั่นแกล้ง
จากกรณีเกิดเหตุสุดสยอง นายอรุณทร นิ่มนวล หรือ "เมี้ยก ห้วยนาง" อายุ 37 ปี บุกเดี่ยวเข้าบ้านเลขที่ 46 หมู่ 4 บ้านห้วยนางใต้ ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ก่อเหตุใช้มีดพกปลายแหลมแทงนายสุพรรณ แก้วเกื้อ หรือเอียด อายุ 59 ปี เป็นน้องชายของ นายประพัฒน์ แก้วเกื้อ อดีตประธานสภาทนายความ จ.ตรัง เข้าที่ชายโครงซ้าย 1 แผล ชายโครงขวา 1 แผล ก่อนใช้มีดพร้าฟันคอจนขาด หัวหลุดออกจากร่าง ขณะผู้ตายถ่ายอุจจาระในห้องน้ำ แล้วจึงฟันคอนางเพ็ญนภา อ้อยเป็น หรือหญิง (ภรรยา) อายุ 52 ปี อาชีพขายน้ำอ้อย หัวหลุดออกจากร่างเช่นเดียวกัน ขณะกำลังทำอาหาร เหตุเกิด 18.30 น. วันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงไปยังวัดห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายสุพรรณ แก้วเกื้อ หรือเอียด ผู้เป็นสามี และนางเพ็ญนภา อ้อยเป็น หรือหญิง ซึ่งตั้งกันอยู่คนละศาลา พบบรรดาญาติอยู่ระหว่างช่วยกันเตรียมข้าวของเพื่อจัดงาน และต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ยังคงสลดหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
...
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ยุพาวดี แก้วเกื้อ หรือตุ๊กตา อายุ 39 ปี ลูกสาวของนายสุพรรณ กล่าวว่า ตนคิดว่าจากสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุบอกว่าโดนพ่อพูดกระแนะกระแหนและกลั่นแกล้งมากว่า 3 ปี ตนคิดว่าไม่จริง เพราะพ่ออยู่แต่บ้าน แต่ละวันกรีดยาง เลี้ยงวัว และไม่ได้เป็นคนแบบนั้น และไม่ปักใจเชื่อเลยว่าจะมาจากเรื่องนี้ และไม่รู้เลยเหมือนกันว่าเรื่องอื่นจะมาจากเรื่องไหน ส่วนผู้ก่อเหตุเคยทราบข่าวมาว่าติดยาเสพติดอย่างหนัก เคยไล่ฟันไล่แทงชาวบ้านมาก่อนแล้ว ถือว่าโหดเหี้ยมอย่างมากที่คนรุ่นหลานมาทำกับคนรุ่นลุงได้ขนาดนี้ เพราะถือว่าเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่โตมาในหมู่บ้านร่วมกับตน รู้จักมาตั้งแต่เล็กๆ ตนรู้จักและสนิทกันทั้งพ่อและแม่ ถือว่ารุนแรงมาก ตนไม่ให้อภัย และไม่อโหสิกรรมให้ อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถึงรับโทษประหารชีวิตไปเลย ไม่อยากเจอ และไม่ต้องมาขอขมาศพ
ขณะที่ จ.ส.อ.ธีรพันธ์ จันทร์ดำ ลูกเขยของ นายสุพรรณ กล่าวว่า ตนคิดว่าอาจจะเป็นเพราะยาเสพติดที่ทำให้ผู้ก่อเหตุระแวงพ่อตา จากการที่ไปดูสภาพศพและที่เกิดเหตุถือว่าโหดเหี้ยมมาก เป็นการฆาตกรรมที่ตนเคยพบเจอในทีวี แต่ครั้งนี้ต้องมาประสบพบเจอด้วยตนเอง ในฐานะที่เป็นลูกเขยรับไม่ได้จริงๆ กับเหตุการณ์นี้ ตนและครอบครัวอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แต่ถือว่าเป็นมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกใบเดียวกันก็ไม่อยากจะอาฆาตพยาบาท เพียงแต่ให้รับกรรมตามกระบวนการกฎหมายให้ถึงที่สุด และไม่จำเป็นต้องมาขอขมาศพ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่า ทางญาติได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญวิญญาณของทั้งสองสามีภรรยาแล้วตั้งแต่เช้าตรู่ โดยยังคงพบเห็นคราบเลือดและรองเท้า รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่ตกอยู่บนพื้น พร้อมได้พูดคุยกับ นางประคอง คงขัน อายุ 53 ปี อาชีพกรีดยางพารา เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ยอมรับว่าไปเห็นสภาพศพก็รีบกลับบ้านทันที เพราะไม่กล้าดู เพราะหวาดกลัวและโหดเหี้ยมอย่างมาก ส่วนผู้ก่อเหตุตนรู้จัก แต่ไม่ได้สนิท ก็รู้สึกสงสารกับสองสามีภรรยาที่ต้องมาเสียชีวิตเช่นนี้.