ผช.ผบ.ตร.กำชับ ตร.รถนำขบวนกรณีคนไม่สำคัญ ให้ จนท.พิจารณาตามความจำเป็นแก่กรณี โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ให้ ผบก.จร. หรือ ผบก.ทล. ผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรฯ

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 64 พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. มีวิทยุราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 5 พ.ย. ถึง ผบช.น., ภ.1-9, และ บช.ก. ใจความอ้างถึง หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0205/ว189 ลง 2 ต.ค. 2545 แจ้งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2544 เห็นชอบหลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย

เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในการอำนวยความสะดวกการจราจรและการรักษาความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามระเบียบและข้อกฎหมาย จึงกำชับการปฏิบัติให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้

1.การใช้รถตำรวจเพื่อนำขบวนบุคคลสำคัญ นักการเมือง แขกต่างประเทศ (ทั้งกรณีการนำขบวนเป็นประจำ และนำขบวนเป็นครั้งๆ ตามความจำเป็นแห่งโอกาส) ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือที่อ้างถึงหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0205/ว189 ลง 2 ตุลาคม 2545 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาอนุญาตให้ใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นครั้งๆ

...

สำหรับรถอื่นนอกเหนือจากรถของบุคคลสำคัญที่กำหนดไว้นั้น ในเขต กทม. ให้ ผบก.จร. หรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต นอกเขต กทม. ให้ ผบก.ทล. หรือผู้ได้รับมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต โดยต้องพิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องใช้รถตำรวจนำขบวน เพื่อความปลอดภัยของขบวน หรือความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน ขบวนรถซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการต่างๆ หรือเป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนของบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ในทางราชการ เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญของทางราชการ เท่านั้น

2.การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานจราจร ในการอำนวยการและจัดการจราจรตลอดจนการใช้รถฉุกเฉินขณะปฏิบัติหน้าที่ ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 อย่างเคร่งครัด.