ชุดสืบสวนภูธรเชียงใหม่จับเฮโรอีนรวม 30 ถุง หนักราว 35 กก. มูลค่าส่งออก 1,000 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ด้าน ผบช.ภ.5 รับแปลกใจเห็นสิงโตคู่เหยียบลูกโลกกลับมาอีกหลังหายไป 30 ปี เร่งขยายผลหาตัวการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค.นี้ ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และพ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมผู้ต้องหา 3 คน มี นายอาทิตย์ จะวอ อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นายจะอื่อ จะทอป่า อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนายจะนู (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ส่วน นายอาคาริ จะอื่อ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ อยู่ในระหว่างหลบหนี โดยยึดของกลางเฮโรอีน ชนิดผง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส มีโลโก้สิงโตคู่เหยียบลูกโลก สีแดง รวม 30 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 35 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผก 1509 เชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหน้าสุสานบ้านทุ่งข้าวหลวง ม.5 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และที่บริเวณศาลาที่พักริมทาง สามแยกปิงโค้ง ขาเข้าเมือง ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
...
ผบช.ภ.5 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาข่าวและสกัดกั้น ยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ภ.จว.เชียงใหม่ นำโดย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สืบทราบว่า มีเครือข่ายกลุ่มเครือข่ายนายลี ซึ่งเป็นคนจีนและเครือข่ายนายจะนะ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ จะลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเขตติดต่อพื้นที่ อ.ฝาง และ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจะส่งต่อไปยังเครือข่ายยาเสพติดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดเป็นขบวนการใหญ่ จะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก โดยใช้เส้นทาง ปิงโค้ง-บ้านทุ่งข้าวหลวง ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ตอนในของ จ.เชียงใหม่ จึงเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ และวางกำลังตามเส้นทางเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วันที่ 9 ต.ค.นี้ ต่อมาชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ ได้พบผู้ต้องหาอยู่ที่ ศาลาที่พักริมทาง สามแยกปิงโค้ง ขาเข้าเมืองฯ โดยขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผก 1509 เชียงใหม่ มีจักรยานยนต์นำหน้ามาจอดอยู่จากนั้นก็ขับเข้าไปเส้นทางเข้าสุสานบ้านทุ่งข้าวหลวง ม.5 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามเข้าไปพบ นายอาทิตย์ จะวอ อายุ 26 ปี และ นายอาคาริ จะอื่อ อายุ 24 ปี กำลังขนถุงดำ จำนวน 2 ถุง ที่วางไว้ในสุสานยกใส่ท้ายรถกระบะ แต่เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอาคาริ จะอื่อ ได้รีบขึ้นรถขับหนีอย่างรวดเร็ว ทิ้งนายอาทิตย์ไว้ถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้
ผบช.ภ.5 กล่าวอีกว่า ทางตำรวจได้ไล่ติดตามรถยนต์ไปประมาณ 100 เมตร ยางหน้ารถยนต์แตก ทางคนขับก็คือ นายอาคาริ จึงได้ทำการทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างทางไปได้โดยภายในรถพบของกลางเฮโรอีนจำนวนมาก รวมน้ำหนัก 35 กิโลกรัม ส่วนกำลังชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่งได้จับกุมชาย 2 คน ที่ขี่รถจักรยานยนต์นำทาง มี นายจะอื่อ จะทอป่า อายุ 36 ปี นายจะนู (นามสมมติ) อายุ 15 ปี แต่ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องในการลำเลียงยาเสพติด โดยอ้างว่าทั้งสองขอให้นำทางไปส่งที่ป่าช้า
...
พล.ต.ท.ปิยะ เผยว่าการจับกุมเฮโรอีนจำนวนมากนี้ และที่น่าแปลกก็จะเป็นการบรรจุถุงตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลก ซึ่งหายไปนานมากกว่า 30 ปีแล้ว แต่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะมีการขยายผลการจับกุมเครือนี้ ซึ่งเฮโรอีนที่ถูกจับมีทำการตรวจสอบด้วยน้ำยา ก็พบว่าเป็นเฮโรอีนเกรดที่ หากเป็นราคาในพื้นที่ก็จะมีมูลค่า 10 ล้านบาท เมื่อเข้าสู่ตอนกลางของประเทศจะมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท หากหลุดไปสู่ต่างประเทศจะมีมูลค่าถึง 1,000 บาท ในเรื่องนี้จึงได้ขยายผลหาตัวการใหญ่ เพราะคนที่ถูกจับกุมรับสารภาพรับขนจากชายแดน อ.แม่อาย และฝาง ในราคา 5,000 บาท อย่างไรก็ตามจะมีการขยายผลเครือข่ายและยึดทรัพย์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเฮโรอีนบรรจุถุงตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลก เมื่อประมาณ 30 ปี เป็นของกลุ่มขุนส่า ราชายาเสพติดโลก แต่ต่อมาถูกปราบปราม ก็มีการเปลี่ยนกลับมาอัดเป็นแท่งที่ถูกจับกุมได้ในระยะหลัง แต่เมื่อปรากฏว่าล่าสุดมีการจับกุมเป็นถุงและยังมีตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลกปรากฏอยู่ ทางตำรวจจึงจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนว่าเป็นเครือข่ายไหน หรือจะเป็นเครือข่ายเก่าของขุนส่าที่กลับมาอีกครั้งหนึ่ง.