รองโฆษก ตร.เตือนข่าวปลอม คฝ. ใช้กระสุนจริงยิงกลุ่มผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ยันไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าว
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม กรณีที่มาการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เรื่อง คฝ. ใช้กระสุนจริงยิงกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีที่มีการโพสต์ข้อความและแชร์ออกไปในวงกว้างระบุว่า มีผู้ชุมนุม 1 ราย ถูก คฝ.ใช้กระสุนจริงยิงจนได้รับบาดเจ็บนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า
1. เจ้าหน้าที่ตํารวจไม่มีการใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด
2. ได้ทำการประสาน ผกก.สน.ดินแดง พื้นที่ที่อ้างถึง ผกก.สน.พญาไท พื้นที่ต่อเนื่องใกล้เคียง ไม่มีแจ้งเหตุการชุมนุม หรือ กิจกรรมที่มีผู้ถูกทําร้ายด้วยอาวุธปืนยิง และไม่มีการแจ้งจากโรงพยาบาลใกล้เคียงว่ามีเหตุผู้บาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิงในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด
3. ตามภาพจะเห็นได้ว่า ภาพบนเป็นหลังคนถ่ายจากตัวคนจริง และภาพล่างเบลอเป็นภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์ ลักษณะคล้าย แผลกระแทก ถูกครูด ซึ่งลักษณะคนละคนกับภาพบน เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่เหมือนกัน บาดแผลไม่เหมือนแผลที่ถูกอาวุธปืนยิง
4. เพจที่ลง เป็นเพจที่สนับสนุนเพจกลุ่มเยาวชนทะลุแก๊ซมาตลอด เชื่อว่าลงเพื่อต้องการปลุกระดมเรียกมวลชน เพราะกลุ่มมวลชนที่ตั้งใจออกมาก่อความไม่สงบ ปัจจุบันถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แนวโน้มมวลชนเริ่มลดลงเรื่อยๆ จึงสร้างกระแส ปลุกระดมคนให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่ตํารวจ และกระตุ้นให้ออกมาต่อต้านตํารวจ
...
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.royalthaipolice.go.th หรือโทร 1599
บทสรุปของเรื่องนี้ : เจ้าหน้าที่ตํารวจไม่มีการใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด อีกทั้งไม่ได้รับแจ้งเหตุการชุมนุม หรือ กิจกรรมที่มีผู้ถูกทําร้ายด้วยอาวุธปืนยิง และไม่มีการแจ้งจากโรงพยาบาลใกล้เคียงว่ามีเหตุผู้บาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิงในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”