เจ้าท่าพระนครศรีอยุธยา สั่งเรือบรรทุกสินค้าห้ามวิ่งผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก ตรงจุดเรือลากจูงอับปาง เพื่อเร่งกู้เรือและค้นหาศพสองผัวเมียที่จมหายไป ยืนยันเรือไม่ได้ชนกัน แต่เป็นกระแสน้ำเชี่ยวแทงเรือจม เผยเป็นอุบัติเหตุเรือใหญ่ล่มครั้งแรกในรอบ 15 ปี 

บ่ายวันที่ 29 ก.ย. 64 หลังเกิดอุบัติเหตุเรือล่มในแม่น้ำ บริเวณสามแยกมาบรรจบกันของแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก หน้าท่าเรือวัดพนัญเชิง มีผัวเมียที่มากับเรือ จมหายไป 2 คน ร.ต.อ ธนวัฒน์ สกุลวงษ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้สอบปากคำนายจรัญ ศิริสังข์ อายุ 31 ปี เผยว่า ขับเรือรับจ้างลากจูง ขณะเกิดเหตุได้ลากจูงอยู่บริเวณด้านข้างของเรือบรรทุกสินค้า โดยได้รับช่วงต่อมาจากสะพานอโยธยาเพื่อช่วยให้เรือบรรทุกแร่ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าแม่น้ำป่าสัก ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุนั้น มีกระแสน้ำเชี่ยวไหลแรง ส่วนเรือที่จมอยู่ด้านซ้ายสุด พอถึงจุดเกิดเหตุ เรือได้เสียการทรงตัวและเอียงเนื่องจากมีกระแสน้ำไหลเฉี่ยว ทำให้คนขับเรือต้องกลับลำเรือแต่น้ำได้เข้าทางท้ายเรือ อย่างรวดเร็ว ทุกคนตะโกนบอกให้ผู้ที่สูญหายตัดเชือก แต่เนื่องจากเชือกตึง ผู้สูญหายตะโกนบอกว่าไม่สามารถตัดเชือกได้ จากนั้นเรือก็พลิกคว่ำจมลงในแม่น้ำทันที

...

ส่วนสาเหตุ ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุการชนกัน แต่เป็นเรื่องของกระแสน้ำที่เชี่ยวจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนนายสมชายที่หายไปเป็นคนขับเรือจูงรับจ้างมาหลายสิบปีและชำนาญเรื่องการขับเรือเป็นอย่างดี 

ทางด้าน นาวาโทรัชตะ ผกาฟุ้ง ผอ.เจ้าท่าอยุธยา เปิดเผยจากการลงตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า เรือที่จมเป็นเรือลากจูงอยู่ซ้ายสุดของเรือที่ลากจูงมา 5 ลำ แต่เนื่องด้วยกระแสน้ำบริเวณตรงท่าข้ามเรือวัดพนัญเชิงมีกระแสไหลเชี่ยว ทำให้เรือเสียการทรงตัวแล้วอับปางลง ส่วนการกู้นั้นตอนนี้กรมเจ้าท่าได้ประสานเรือบรรทุกทุกบริษัท ห้ามวิ่งในช่วงเวลานี้โดยเด็ดขาด พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำและเจ้าของบริษัทเรือ นำเรือใหญ่ลงมาทอดสมอเพื่อหาจุดตรงที่เรือจมและค้นหากู้ศพผู้เสียชีวิต จากนั้นจะกู้เรือขึ้นมา

"ถ้าไม่ติดขัดอะไรภายในเย็นนี้คาดว่าน่าจะกู้ได้ เพื่อให้เรือบรรทุกสินค้าอื่น สามารถวิ่งสัญจรทางน้ำได้ โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาบริเวณจุดเกิดเหตุตรงนี้ ไม่เคยมีเรือลากจูงหรือเรือสินค้าลำใหญ่อับปางเลยมีเพียงเรือเล็กที่บรรทุกโดยสารข้ามฝั่ง ประสบอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น".