คืบจับ 5 ตำรวจปลอมแก๊งรีดไถ ผู้เสียหายนับสิบทยอยแจ้งความต่อเนื่องในหลายโรงพักที่ปัตตานี เพื่อเอาผิดคนร้ายถึงที่สุด ส่วนปมถูกจนท.ทำร้ายหรือไม่ยังไม่มีผลยืนยัน ผกก.ยะหริ่งยันให้ความเป็นธรรม
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 รายที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ออกตระเวนรีดไถ กรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายในหลายพื้นที่ จนทำให้เรื่องราวดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ยะหริ่ง ได้รับเบาะแสมาว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คนจะเข้าก่อเหตุในพื้นที่ ม.3 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จึงได้ประสานไปยังกำนันในพื้นที่ให้เฝ้าระวัง จนกระทั่งพบว่า กลุ่มดังกล่าวกำลังก่อเหตุกับกลุ่มวัยรุ่นจริง ทางกำนันและชุดคุ้มครองหมู่บ้านจึงได้เข้าไปสกัด ควบคุมตัวพร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และทำการจับกุมพร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุมาสอบสวนขยายผล ซึ่งเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 กันยายน 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวที่ สภ.ยะหริ่ง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในขณะถูกควบคุมตัว ทำให้วันนี้ เวลา 10.30 น. นายกอดือรี หวังพึ่งฉาย อายุ 49 ปี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ยะหริ่ง เพื่อมาแจ้งความว่า ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายได้รับบาดเจ็บขณะนี้ถูกนำตัวไปรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี ในขณะเดียวกันก็มีผู้เสียหายและญาติ ที่เคยถูกกระทำจากกลุ่มดังกล่าวจำนวน กว่า 10 ราย ต่างเดินทางมาแจ้งความให้ปากคำ กับเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน จะเอาผิด กลุ่มขูดรีดทั้ง 5 รายที่ถูกจับด้วยเช่นกัน ญาติบางคนมีการพูดคุยโต้เถียงกันด้วย
...
นายกอดือรี หวังพึ่งฉาย อายุ 49 ปี พ่อของนาย ฮากีมี หวังพึ่งฉาย อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ พอตนทราบข่าวเรื่องลูกชายแล้ว จึงรีบเดินทางมาที่โรงพักช่วงประมาณบ่าย 2 โมง พร้อมกับภรรยา เพื่อจะเอาข้าวมาส่งให้ลูก แต่เมื่อพอมาถึงแล้วปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ยังปกปิด มีท่าทีบ่ายเบี่ยง บางคนบอกว่าอยู่ แต่บางคนบอกไม่อยู่ ยังไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรมาก และไม่ยอมให้พบตัว ตนเลยเกิดสงสัย สักพักจนกระทั่งถึงเวลาบ่าย 14.30 น. ภรรยารับแจ้งจากญาติที่รพ.ยะหริ่งแจ้งว่า เห็นบุคคลคล้ายลูกชายกำลังถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถเปลนอนกำลังเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตนเลยเค้นสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนอีกครั้ง ถึงคราวนี้เจ้าหน้าที่ถึงยอมบอกว่าใช่
บิดาของนายฮากีมี ผู้ต้องหา กล่าวต่อว่า จากนั้นก็นึกได้ว่ามีญาติอยู่ที่ รพ.จึงโทรสอบถาม จึงทราบความจริงจากญาติที่ รพ.ว่า เห็นว่าเจ้าหน้าที่เอาตัวนายฮากีมีโดนนำตัวไปที่รพ.ยะหริ่ง และมีอาการบาดเจ็บ จึงส่งต่อ รพ.ปัตตานีแล้ว จากนั้นตนจึงรีบไปดูลูกที่รพ.ทันที จึงเห็นลูกชายอยู่ในสภาพบาดเจ็บ หน้าตาบวม ตาแดง ดั้งจมูกหัก ช้ำบริเวณหัว ที่ด้านหลังมีรอยช้ำอยู่หลายรอย เหมือนถูกฟาดด้วยของแข็ง ตนจึงค้างคาใจว่า ทำไมลูกชายถึงมีอาการบาดเจ็บ โดยสันนิษฐานว่า โดนใครทำร้าย หรือว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายระหว่างสอบสวนหรือไม่ เพราะตนก็เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้ว วันนี้จึงมาแจ้งความและสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเรื่องนี้ ว่าเกิดขึ้นกับลูกตนเองได้อย่างไร ตนขอถามหาความยุติธรรม ระหว่างนี้รอผลสรุปอีกครั้งว่าเป็นอย่างไรต่อไป
ขณะเดียวกันที่ฝ่ายทางญาติของผู้ต้องหาอีกทั้ง 4 ราย ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมด้วยเช่นกัน จากการสอบถามผู้ต้องหา ทั้ง 4 คน ได้แก่ 1. นายสุกรี เจ๊ะโต๊ะ ชาวบ้าน ต.จะแน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 2. นายกามี สามะ ชาวบ้าน ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 3. นายอุสมาน ยามา ชาวบ้าน ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ 4. นายบัสมี บากา ชาวบ้าน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ก็เล่าทำนองเดียวกันหมดว่า ทั้งหมดทั้ง 4 คนโดนหลอกจากนายฮากีมี ให้มาทำพฤติกรรมครั้งนี้ เพราะทำตัวเป็น หัวหน้ากลุ่ม ญาติจึงปักใจเชื่อว่า โดนนายฮากีมีที่ทำตัวแอบอ้างเป็นตำรวจมียศ ตำแหน่ง รู้จักตำรวจ และผู้ใหญ่ หลายคน เป็นคนชักชวนมาทำพฤติกรรมดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผกก.สภ.ยะหริ่ง กล่าวถึงกรณี 1 ในผู้ต้องหาที่ไปรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี ว่า ข้อเท็จจริงเนื่องจากหลังผู้ต้องหาทั้ง 5 คนถูกจับกุมก็ได้นำตัวมาควบคุมตัวที่ห้องขังของ สภ.ยะหริ่ง เพื่อรอการสอบสวนขยายผล แต่ปรากฏว่า นายฮากีมี หวังพึ่งฉาย ผู้ต้องหาเกิดอาการหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งไป รพ.ยะหริ่ง ซึ่งการปฏิบัติของผู้ต้องหาเช่นนี้ก็เป็นไปตามสิทธิมนุษยชนที่ต้องทำ และเมื่ออยู่ในความดูแลของแพทย์ก็ถือว่าปลอดภัย ส่วนวันนี้ทางญาติของผู้ต้องหามาแจ้งความว่า นายฮากีมีได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายในขณะถูกควบคุมตัวนั้น ทางพนักงานสอบสวนก็ได้รับแจ้งไว้แล้ว ซึ่งก็ต้องดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริงในเรื่องที่รับแจ้ง ส่วนในเรื่องของตนก็จะตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปตามระบบและทางผู้บังคับบัญชาก็กำชับให้ดำเนินการตรงไปตรงมา
...
"ขณะนี้ยืนยันไม่ได้ว่า ถูกทำร้ายหรือไม่อย่างไร ส่วนการสอบสวนความคืบหน้าของคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้วเบื้องต้น ซึ่งทั้ง 4 คนได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ขณะนี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน รวมไปถึงพยานบุคคล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าจะเสียรูปคดี" ผกก.สภ.ยะหริ่้ง กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามมีผู้เสียหายมาแจ้งความวันนี้จำนวน 4-5 ราย ทั้งจาก อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง และอำเภอยะรัง พอรู้ข่าว ต่างพากันมาดูตัว เพื่อถามหาความยุติธรรมและทวงสิทธิ์ของตนที่ได้รับความเสียหายคืนมาซึ่งส่วนใหญ่ถูกรีดไถเงินไป
ส่วน นางรูปียะ เจ้ะแว อายุ 44 จากบ้านบาโลย อ.ยะหริ่ง ผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวแล้วเมื่อเห็นหน้าตา ก็เลยจำได้เพิ่งรู้ว่าเป็นกลุ่มรีดไถนี้ ก่อนหน้านี้เคยประสบกับตนว่า กลุ่มดังกล่าว 5 คนเคยมาค้นที่บ้านถึง 2 ครั้ง ครั้งหลังนี้ ขับรถกระบะสีดำ สี่ประตู เห็นลูกกับเพื่อนๆ นั่งเล่นกันอยู่ข้างบ้าน พวกเขาทั้ง 5 คนจึงจอดรถและได้บุกเข้ามาไล่จับกุมกลุ่มลูกและเพื่อนๆ ทันที โดยอ้าง พร้อมตะโกนว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปราม ได้ขึ้นมาทำการค้นบ้าน และถามยาเสพติดกับลูกชายตน และทำการค้นตัวลูกชายจนเจอเงินติดตัวอยู่ 8,000 บาท แล้วได้ยึดเอาไว้ และหลังจากที่กลุ่มดังกล่าวยังตรวจค้นบ้านต่อเพื่อหายาเสพติด แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด จึงได้เรียกตัวตนซึ่งเป็นแม่มาคุยส่วนตัวเพื่อให้ตนไปคุยกับลูกเพื่อให้บอกว่าเอายาเสพติดไปซ่อนที่ไหน ซึ่งหากถ้านำมาให้ได้ พวกกลุ่มคนดังกล่าวจะไม่เอาเรื่องกับลูกชายตน
...
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อกลุ่มดังกล่าวไม่เจอยาเสพติด จึงได้นำตัวลูกชายขึ้นรถกระบะขับหายไป 2 ชั่วโมง และขับมาส่งอีกครั้ง ตนจึงถามกับลูกว่าไปไหนและได้ความว่า ได้นำตัวลูกตนเพื่อไปหาเพื่อนลูกอีกคนและได้ค้นเจอยาเสพติดและได้เงินจากเพื่อน 8,000 บาทด้วย ซึ่งเมื่อหลังเกิดเหตุจนกระทั่งเมื่อวานเห็นข่าวว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ วันนี้จึงได้รีบมาแจ้งความที่โรงพักยะหริ่งทันที.