พบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตใกล้ร่องน้ำ คาป่าละเมาะใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ต.บ้านใหม่ ย่านตัวเมืองปทุมธานี จนท.ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดตายมาแล้ว 8-12 ชม. ญาติเล่าทั้งน้ำตา ผู้ตายเป็นดาวน์ซินโดรม-ป่วยมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย เผยเบาะแสมีชายชุดดำพาออกจากบ้านตั้งแต่ตอนเช้า ก่อนมาพบเป็นศพเสียชีวิต
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 13 ก.ย. 64 พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณปากซอยร่วมสุข 7/24 ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกับ พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะ อยู่ใต้ทางด่วนอุดรรัถยา พบผู้เสียชีวิตเพศหญิง 1 ราย ลักษณะนอนหงายอยู่บนเนินดินใกล้ร่องน้ำ ขาทั้งสองข้างแช่อยู่ในน้ำ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นรัดรูปสีดำ ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ซิ้ม บางจั่น อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/92 ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
จากการสอบถาม นางพรพรรณ บางจั่น อายุ 64 ปี พี่สาวผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า น้องสาวตนเป็นคนที่ไม่สมประกอบ (ดาวน์ซินโดรม) และเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ได้ออกจากบ้านพักซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร โดยทราบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งแต่งชุดดำ พาออกจากบ้านมาตั้งแต่เวลาประมาณ 9 โมงเช้าวันนี้ (13 ก.ย.) จนกระทั่งเย็นก็ยังไม่กลับบ้าน ตนและสามีพร้อมญาติๆ และเพื่อนบ้าน ได้ช่วยกันออกตามหา ครั้งแรกเดินออกตามหาจนทั่วก็ไม่พบ จนกระทั่งมาพบรองเท้าน้องสาวตกอยู่ในร่องน้ำ 1 ข้าง ห่างออกไปประมาณกว่า 20 เมตร ก็พบร่างน้องสาวนอนเสียชีวิตในสภาพดังกล่าว จึงโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
...
ด้าน พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้ร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร โดยเบื้องต้นมีเพียงร่องรอยขีดข่วนที่ไหล่ แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง จากนั้นพนักงานสอบสวนได้บันทึกภาพจุดเกิดเหตุทั้งหมด เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง พร้อมทั้งยังสั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามหาตัวชายคนชุดดำที่มีพยานพบเห็นว่าออกมาพร้อมกับผู้เสียชีวิต มาทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตหรือไม่ต่อไป.