รวบแล้ว ผัวโหดใช้ค้อนตีตะปูทุบทำร้ายภรรยาที่คบหามาประมาณ 5 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อ้างแค้นฝ่ายหญิงไปมีชู้ ขณะชาวบ้านต่างสงสารคนถูกทำร้าย บอกนอกจากจะโดนฝ่ายชายทำร้ายเป็นประจำแล้ว ยังมีลูกสาวฝ่ายชายตามมาทำร้ายซ้ำ เพราะไม่อยากให้ไปคบกับพ่อของตัวเอง

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ตามจับ นายสมพร จันทร์ประโคน อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.8 ต.ตะโกตาพิ อ.ประโคนชัย มาสอบสวนที่ สภ.ประโคนชัย

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา นายสมพรได้ลงมือก่อเหตุทำร้าย นางทัศณีย์ เกื้อประโคน อายุ 56 ปี ชาวบ้าน อ.ประโคนชัย ด้วยการใช้ค้อนตีตะปูทุบตีตามร่างกายหลายแห่ง ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปช่วย เพราะผู้ก่อเหตุถือมีดไว้อีกเล่มหนึ่งด้วย โดยหลังจากตำรวจเข้าจับกุมนายสมพรในช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “รุนแรงเกินไป”

นางสุวัฒน์ ชัยสุวรรณ อายุ 48 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เล่าว่า นายสมพรกับนางทัศณีย์ เป็นคนบ้านเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีสามี-ภรรยา เพราะเสียชีวิตไปแล้ว

จากนั้นทั้งสองมาคบหากันฉันสามีภรรยามาประมาณ 5 ปี แต่จะไปๆ มาๆ นอนค้างบ้างเป็นบางครั้ง ที่ผ่านมานายสมพรมักจะทำร้ายนางทัศณีย์เป็นประจำ บางครั้งลูกสาวนายสมพร 2 คน ก็ตามมาทำร้ายนางทัศณีย์ซ้ำอีก ที่ไปคบกับพ่อ จนนางทัศณีย์ต้องไปขอหลบซ่อนตัวกับเพื่อนบ้าน ตนก็เคยให้เป็นที่พัก และครั้งนี้ฝ่ายหญิงหนีไปได้ 3 วัน แล้วกลับมาอยู่บ้าน ก่อนที่ฝ่ายชายจะรู้แล้วตามมาทำร้ายดังกล่าว

นางสาวณัฐธิดา เกื้อประโคน อายุ 30 ปี คนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนางทัศณีย์นอนหลับอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้าน จู่ๆ นายสมพรได้พุ่งเข้าไปใช้ค้อนตีตะปูทุบไปที่หัว จนเลือดอาบ จากนั้นฝ่ายหญิงได้วิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่ฝ่ายชายวิ่งไล่ตามแล้วทำร้ายกลางถนนตามคลิปที่ปรากฏ

...

ขณะที่ นายสมพรได้ออกมาพูดหลังถูกจับกุมว่า อยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี แต่ในช่วงหลังฝ่ายหญิงไปมีชู้ ทั้งยังหลบหน้า พอเห็นตัวจึงเกิดบันดาลโทสะเข้าไปทุบตีดังกล่าว ยอมรับว่าแค้น ส่วนลูกสาว 2 คนไม่ได้ไปทำร้าย ทำเพียงแค่ผลักหน้าอกเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสอบสวน ตำรวจได้ตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” เอาไว้ก่อน ซึ่งจะต้องรอดูอาการของผู้บาดเจ็บว่าสาหัสแค่ไหน โดยจะต้องรอผลของหมอว่าจะลงความเห็นว่าอย่างไร หากระบุว่าอาการสาหัส จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มต่อไป.