ป้าแต๋น พร้อมทนายส่วนตัว เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามนัดที่ สภ.กกตูม ยันบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดร้ายกับหลาน ขณะที่ลุงพลเดินทางมาให้กำลังใจไม่ห่าง ฝากเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างรัดกุม รอบคอบ
จากกรณีที่ พนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ นัดหมาย นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น รับทราบข้อกล่าวหา ใน 2 ข้อหา คือ การกระทำใดๆ กับศพ เพื่อทำให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ทวิ // และมาตรา 83 ประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับการเป็นตัวการร่วมกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป นั้น
...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2564 นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น พร้อมกับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เดินทางมาที่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร พร้อมทนาย คือ ทนายรัชพล ศิริสาคร ทำหน้าที่ทนายแทนทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนชุดทำงานในคดีน้องชมพู่
ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้บอกกับผู้สื่อข่าวก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า วันนี้ป้าแต๋นมารับทราบแค่หนึ่งข้อหาหลัก เพราะข้อ ม.83 ไม่มีโทษ เพราะ ม.83 เอามาใช้ในการกระทำความตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปจะเอามาตรานี้มาใช้แต่ว่าไม่มีโทษโทษก็ตาม มาตรา 150 ทวิ ส่วนหลักฐานที่ชี้ความผิดนั้น ตำรวจยังไม่ได้บอกเราเลย ส่วนความกังวลตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตำรวจจะมีการควบคุมอะไรหรือเปล่า เราก็ยังไม่รู้ แต่ตอนนี้ได้มีการเตรียมวงเงินมาเผื่อไว้แล้ว แต่ที่จริงแล้วโทษมันน้อย จำคุกแค่ 2 ปี ไม่ใช่ข้อหาที่ร้ายแรงขนาดถึง 10 ปี
ด้านนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น บอกว่า ตอนแรกที่รู้ข่าวว่าตนเองถูกแจ้งข้อหาก็รู้สึกงงเหมือนกันที่เจอข้อกล่าวหานี้ เราไม่เคยคิดร้ายกับหลานมาก่อน ซึ่งป้ารู้สึกบริสุทธิ์ใจตรงนั้น เพราะที่ผ่านมาก็ทุกอย่างก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของคดี และก็จะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และก็ชี้แจ้งว่าไม่ส่วนเกี่ยวข้องทุกอย่างเกี่ยวกับหลานตัวเอง ส่วนทางลุงพลก็มีความเครียดอยู่บ้าง แต่ทางเราก็พร้อมที่จะสู้คดี
ส่วนนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ที่ได้เดินทางมาให้กำลังใจป้าแต๋น เปิดเผยว่า วันนี้ก็ปกติ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็อยากให้ท่านทำงานรอบคอบและรัดกุม เพราะผมเชื่อว่าถ้าใครเจอก็ต้องเป็นกังวลเหมือนกันกับผม และเมื่อวานที่ผ่านมาก็ไปกราบพระอาจารย์ที่นับถือที่วัดด่านพระอินทร์ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร