ตำรวจ 191 จับเครือข่ายยาเสพติดในสุพรรณบุรี ลอบขนยาบ้าซุกมากับรถกระบะบรรทุกผักหลังไปส่งลูกค้าที่ภาคใต้ โดนสกัดจับคาด่านโควิดที่บางบัวทอง คนขับสารภาพรับจ้างมา 12,000 กับค่าน้ำมัน ทำมา 4 ครั้ง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 ก.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) แถลงจับกุมคีดยาเสพติด ได้ผู้ต้องหา คือ
นายบุญมี ผิวอ่อนดี หรือ เอก อายุ 59 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าจำนวนประมาณ 2,000,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บห 4238 พิษณุโลก รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา ทะเบียน 3ฒข 773 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 2 เครื่อง ยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการ รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีแดง ทะเบียน 7กฆ 5747 กรุงเทพมหานครรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน 7กข 4259 กรุงเทพมหานคร เงินสด จำนวน 11,000 บาท พระเครื่องจำนวน 11 องค์ บัตรกดเงินสด ATM จำนวน 4 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 เล่ม รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1,500,000 บาท จับกุมได้ที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
...
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส. บช.น. ชุดจับกุมได้ร่วมกันบูรณาการสืบสวนหาข่าวผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางซึ่งได้จับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วประกอบกับได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว จนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จะทำการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ผ่านทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เครือข่ายกลุ่มนี้จะใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บห 4238 พิษณุโลก ในการลำเลียงยาเสพติด
โดยการขนในรอบนี้ มีการปะปนมากับสินค้าทางการเกษตรหรือรถขนผัก เพื่อซุกซ่อนอำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจนทราบว่า เครือข่ายกลุ่มนี้ก่อนไปรับยาเสพติดในบริเวณพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จะใช้รถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บห 4238 พิษณุโลก ไปซื้อผักที่ตลาดไท จ.ปทุมธานีให้เต็มท้ายกระบะ แล้วจะกลับไปขนยาบ้าซุกซ่อนใส่ปะปนไว้กับผักที่ท้ายรถกระบะเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นสินค้าเกษตร จากนั้นจะลำเลียงไปจำหน่ายยังพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทางผ่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ในแต่ละครั้งจะมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว สีเทา หมายเลขทะเบียน 3ฒข 773 กรุงเทพมหานคร เป็นรถนำคอยดูต้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาวันที่ 1 ก.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าเครือข่ายกลุ่มนี้จะลักลอบลำเลียงยาบ้าลงสู่ภาคใต้ จึงได้วางกำลังตามเส้นทางที่ได้สืบสวนมาแล้ว จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บห 4238 พิษณุโลก ซึ่งบรรทุกผักเต็มบริเวณท้ายรถ และมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว สีเทา หมายเลขทะเบียน 3ฒข 773 กรุงเทพมหานคร ขับนำหน้าโดยใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี และเข้าเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก(ตะวันตก) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามรถทั้งสองคันไปจนกระทั่งรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุฯ ชะลอความเร็วก่อนเข้าบริเวณด่านตรวจสกัดกั้นโควิด-19 ของอำเภอบางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนปะปนไว้กับผักกะหล่ำปลีที่บริเวณท้ายรถกระบะ ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าฯ ที่ทำหน้าที่นำทางนั้น ได้ขับหลบหนีการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณ ซ.เปี่ยมสุข ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ส่วนคนขับได้อาศัยความมืดหลบหนีไป
...
จากการสอบถามนายบุญมี หรือเอก ให้การรับว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดในลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 64 โดยมีนายโอมเป็นผู้ว่าจ้างให้ขนยาเสพติดครั้งละประมาณ 1,800,000-2,000,000 เม็ด โดยจะจ่ายค่าจ้างให้กับผู้ร่วมขบวนการครั้งละ 300,000 บาท ซึ่งนายบุญมีฯ จะได้ส่วนแบ่งต่อครั้ง ครั้งละ 12,000 บาท และค่าน้ำมัน 10,000 บาท และค่าจ้างจะได้รับหลังจากนำยาเสพติดไปส่งที่นัดหมายแล้ว โดยการลำเลียงยาเสพติด ผู้ต้องหาจะเป็นคนขับรถขนยาเสพติด และมีผู้ร่วมขบวนการทำหน้าที่ขับรถนำ ซึ่งจะนำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง ลำเลียงสู่ชายแดนพื้นที่ภาคใต้ อ.สุไหงโก-ลก, อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่ครั้งล่าสุดจะนำไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ก่อน
...
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้าฯ ที่ทำหน้าที่นำทาง ซึ่งได้หลบหนีไป รวมถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีกต่อไป.