“สุชาติ ธีระสวัสดิ์” นำทีมชี้แจง กมธ.รัฐสภา คดีอดีต ผกก. โจ้และลูกน้องรวม 7 คน ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะผู้ต้องหาเสียชีวิต จากพยานหลักฐานเชื่อว่ากระทำผิดจริง ส่วนอัยการภาค 6 และพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำ ผกก.โจ้ในเรือนจำ ยังให้การภาคเสธ แต่ยอมรับกระทำจริง ไม่ได้เจตนาฆ่า เพียงต้องการข้อมูลเท่านั้น ขณะที่หัวหน้าชุดสอบสวนเตรียมคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯในวันที่ 6 ก.ย.นี้
ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 6 (จังหวัดพิษณุโลก) พิจารณาคดีตามที่พนักงานสอบสวนมีคำสั่ง ตร. ยื่นคำร้องขอโอนการฝากขัง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น ขอโอนการฝากขังผู้ต้องหาที่ 1-7 จากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ไปฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และขอโอนการขังผู้ต้องหาระหว่างสอบสวนจากเรือนจำกลางพิษณุโลกไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสะดวกในการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมาย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้โอนการฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยธรรม สภาผู้แทนราษฎร มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในการประชุม เชิญ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ ตัวแทนโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตัวแทนแพทย์กระทรวงยุติธรรม ตัวแทนผู้พิพากษาชั้นต้นประจำสำนักงานศาลยุติธรรม นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ตัวแทนสภาทนายความ และตัวแทนของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) เข้าร่วมชี้แจงเพื่อพิจารณาศึกษาแนวนโยบายด้านกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะเพื่อเรียกรับเงินจนผู้ต้องหาเสียชีวิต ที่ประชุมนายสิระเปิดวิดีโอการสัมภาษณ์ดาราคนดังที่สะท้อนการกระทำของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และแนวทางการดำเนินการของตำรวจ หลังจับกุมตัวให้ผู้เข้าร่วมประชุมดูก่อนจะมีการประชุม
...
พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า กรณีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่ได้นิ่งนอนใจให้ตนมาควบคุมคดีและให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. เป็นหัวหน้าคณะงานสืบสวนสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ตั้งแต่วันแรกมีการประชุมความคืบหน้าทั้งคนที่เกี่ยวข้อง พยานหลักฐานห้องที่เกิดเหตุรวมถึงพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ พบว่าการกระทำของอดีตนายตำรวจคนนี้มีพยานหลักฐานมาก เชื่อว่ากระทำความผิดจริง มี 3 ข้อหาด้วยกัน คือเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต้องสิ่งใดและร่วมกันฆ่าผู้อื่น ทรมาน โดยกระทำการทารุณโหดร้าย หากผลการสืบสวนมีการกระทำความผิดอื่นเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ส่วนการดำเนินคดี สตช.เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย ไม่ได้มีการละเว้นหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ผู้ที่ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์เพื่อขอเข้ามอบตัว เปิดเผยว่า รู้จักกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์จริง แต่ไม่ได้มีความสนิทแต่อย่างใดทั้งสิ้น งานของตนรับผิดชอบงานด้านกฎหมาย สืบสวนและงานด้านวินัย ส่วนวันที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ติดต่อขอมอบตัวนัดหมายที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี วันนั้นตนยืนอยู่คนเดียวตรงข้าม สภ.แสนสุข กล้องวงจรปิดไปไม่ถึงจึงไม่ได้เป็นไปตามที่สื่อมวลชนไปถ่ายรูปหน้าโรงพักว่ามีกล้องวงจรปิด ตนมั่นใจว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์จะมาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจำทะเบียนรถ แต่ต้องการแค่นำตัวไปดำเนินคดีเท่านั้น ถึงตนจะจำเลขทะเบียนได้ก็ถูกด่าอยู่ดี
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พ.ต.ท.ชน อินพิทักษ์ เลขานุการอัยการภาค 6 พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และพนักงานสอบสวน รวมทั้งอัยการจังหวัดนครสวรรค์ และทนายความผู้ต้องหา เดินทางเข้าไปในเรือนจำกลางพิษณุโลก เป็นเรือนจำประธานเขต 6 หมู่ 8 ต.วังทอง อ.วังทอง เพื่อสอบปากคำ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นไปตาม พ.ร.บ.การสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหา การสอบสวนในครั้งนี้สอบปากคำ ผกก.โจ้ เพียงปากเดียวใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 เปิดเผยว่า สำนวนคดีที่เคยแจ้งความไว้เป็นการกระทำโดยเจ้าพนักงานสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว พนักงานอัยการไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ดังนั้น ก่อนที่สำนวนจะมาอยู่ในอำนาจของอัยการ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามกฎหมายแล้ว ต้องมาร่วมสอบสวนเพื่อให้ครบกระบวนการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาอีก 6 คน ส่วนอดีต ผกก.โจ้ สอบสวนเสร็จแล้ว เบื้องต้นอดีต ผกก.โจ้ ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่ากระทำจริงแต่ไม่ได้เจตนาฆ่า มีเจตนาเพียงต้องการข้อมูลเท่านั้น ยืนยันการสอบสวนในครั้งนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
นายสมพงษ์เปิดเผยอีกว่า สิ่งที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีเจตนา ถ้าดูลึกๆเจตนาอยู่ในใจ สิ่งที่ดูคือกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ตามหลักฐานที่ปรากฏทำไมใช้ถุงคลุมศีรษะถึง 6 ถุง มีการขันชะเนาะหลายรอบตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่ามีร่องรอยช้ำแดง แสดงว่าการขันรอบคอมีลักษณะการใช้ความรุนแรง ยิ่งกดแรงเท่าไหร่เหมือนการบีบคอทำให้ขาดอากาศหายใจและใส่กุญแจมือ ดังนั้น สิ่งที่พบเมื่อถึงจุดจุด หนึ่งผู้ถูกกระทำไม่ได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองนานถึง 4-7 นาที มีผลทำให้สมองตายตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างเช่นไร จะยืนยันในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และแพทย์ผู้ชำนาญการ
...
“ผู้ต้องหากล่าวอ้างเป็นโรคไบโพลาร์นั้น ดูจากคลิปคนป่วยเป็นโรคไบโพลาร์เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทำไมไม่เกี้ยวกราดต่อ กลับมีอาการตกใจ สั่งให้ทำลายหลักฐานลบคลิปกล้องวงจรปิดทั้งหมด อดีต ผกก.โจ้รู้ผิดชอบชั่วดีพาผู้ต้องหาไปโรงพยาบาล พฤติการณ์ไม่เป็นเหตุลดโทษ อย่างไรก็ตาม จะเร่งสำนวนการสอบสวนให้เสร็จประมาณสัปดาห์หน้า ต้องนำมาประชุมร่วมกันแล้วนำมาส่งให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อไต่สวน คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน จะส่งสำนวนต่อศาลให้พิจารณาคดีต่อไป” นายสมพงษ์กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 อนุญาตให้โอนย้ายอดีต ผกก.โจ้และพวกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พนักงานสอบสวนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใน 3 หน่วยงาน คือเรือนจำกลางพิษณุโลก เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ให้รับทราบเรื่องการโอนย้าย เพื่อให้ทั้ง 3 หน่วยงานประสานข้อมูลกันก่อน จากนั้นจะควบคุมตัวผู้ต้องขังไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คาดว่าจะคุมตัวจากเรือนจำกลางพิษณุโลกภายในวันที่ 6 ก.ย.นี้
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยว่า ตามที่สมาคมทนาย ความแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 ส.ค. เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล กับพวก กรณีถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ที่ จ.187/2564 ลงวันที่ 25 ส.ค. ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้โอนสำนวนมาให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบนั้น
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยขอเรียนว่า เหตุที่ได้เรียกร้องให้โอนสำนวนคดีนี้จาก สภ.เมืองนครสวรรค์ ให้ บก.ป.รับผิดชอบ เพื่อขจัดการมีส่วนได้เสียอันจะทำให้การสอบสวนเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม โดยเฉพาะการดำเนินคดีนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความน่าเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ขณะที่ผู้ทำหน้าที่สอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเช่นกัน
...
สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินคดีนี้ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในตำรวจที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนว่า มีความเป็นกลางและเป็นธรรม การมีความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องบุคคลใด ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและตามรูปคดี โดยปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำไม่ว่าจะจากบุคคลหรือองค์กรใด ดังนั้น เมื่อทำการสอบสวนเสร็จก่อนส่งสำนวน และความเห็นของพนักงานสอบสวนให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรแถลงให้ประชาชนได้ทราบถึงความเห็นของพนักงานสอบสวน ในการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาคนใด ในข้อหาใดหรือไม่พร้อมด้วยเหตุผลประกอบการมีความเห็นดังกล่าว