รองอธิบดีอัยการภาค 6 ตร.ภาค 6 และกองปราบ เข้าสอบปากคำ ผกก.โจ้และพวก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาโดยมีทนายร่วมรับฟัง ทางผู้ต้องหาให้การภาคเสธ คาดใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน รวมสำนวนคดีส่งฟ้องต่อศาลได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.ย.2564 นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พ.ต.ท.ชน อินพิทักษ์ เลขานุการอัยการภาค 6 ชุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภ.6 และพนักงานสอบสวนภาค 6 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผกก.ป.และคณะทำงานสืบสวนสอบสวนกองปราบปราม รวมทั้งอัยการจังหวัดนครสวรรค์ และทนายความของผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้าไปในเรือนจำกลางพิษณุโลก ซึ่งเป็นเรือนจำประธานเขต 6 หมู่ 8 ต.วังทอง อ.วังทอง เพื่อสอบสวนปากคำ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการ สภ. เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นไปตาม พ.ร.บ.การสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหา โดยการสอบสวนปากคำในวันนี้ใช้เวลาสอบสวนปากคำ ผกก.โจ้ เพียงปากเดียวใช้เวลากว่าสองชั่วโมง
รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าวว่า เหตุที่ต้องมาในวันนี้เนื่องจากสำนวนคดีที่เคยได้แจ้งความไว้ เป็นการกระทำโดยเจ้าพนักงานสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว พนักงานอัยการไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ดังนั้นก่อนที่สำนวนจะมาอยู่ในอำนาจของเรา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามกฎหมายแล้ว เราต้องมาร่วมสอบสวนเพื่อให้ครบกระบวนการ การสอบสวนผู้ต้องหาโดยเฉพาะ ผกก.โจ้ เราได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกฎหมายว่า เขากระทำผิดอย่างไรบ้าง และจะให้การอย่างไร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาอีก 6 คน ส่วน ผกก.โจ้ เราสอบสวนปากคำเสร็จแล้ว
...
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น ผกก.โจ้ ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่ากระทำจริงแต่ไม่ได้เจตนาฆ่า มีเจตนาเพียงต้องการข้อมูลเท่านั้น ยืนยันการสอบสวนในครั้งนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อเราแจ้งข้อกล่าวหากับเขาว่า ฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลโดยทารุณโหดร้ายและเกิดความทุกข์ทรมาน หลักการของกฎหมายก็ยังอยู่เหมือนเดิม ผู้ต้องหามีสิทธิ์จะให้การอย่างไรก็ได้ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเราจะดูหลักฐานพยานที่ปรากฏ มันมีลักษณะของการเจตนาที่จะฆ่าจริงหรือไม่ มีลักษณะเป็นการทารุณโหดร้ายจริงหรือไม่ นี่คือสิ่งที่เรากล้ายืนยัน
รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าวอีกว่า สิ่งที่เขาอ้างว่าไม่มีเจตนา ถ้าเราดูลึกๆ เจตนามันอยู่ในใจ สิ่งที่เราดูได้คือกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา กรรมก็คือการกระทำของเขาในขณะที่ทำว่าเขามีเจตนาหรือไม่ เขาว่าเขาไม่มีเจตนา แต่ทำไมพฤติการณ์ของเขาที่ทำ ตามหลักฐานที่ปรากฏ ทำไมใช้ถุงคลุมศีรษะถึง 6 ถุง มีการขันชะเนาะหลายรอบ การขันชะเนาะนั้นตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มี พบว่ามีร่องรอยช้ำแดง แสดงว่าการขันรอบคอมีลักษณะการใช้ความรุนแรง ยิ่งกดแรงเท่าไรก็เหมือนการบีบคอ อากาศไม่สามารถหายใจได้ การกดคอลงกับพื้นยิ่งทำให้ไม่มีอากาศ มีการใส่กุญแจมืออีก
"ดังนั้นสิ่งที่เราเจอก็คือ เมื่อถึงจุดหนึ่งผู้ถูกกระทำไม่ได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองนานถึง 4-7 นาที มีผลทำให้สมองตายตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขอยืนยัน ไม่ว่าผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างว่าเช่นไร จะปฏิเสธอย่างไร แต่เราเชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เราเชื่อในหลักฐานของแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีหน้าที่โดยตรง เราพบแพทย์มีการผ่าตัดสมอง มีหลักฐานต่างๆ เราพบร่องรอยการขาดออกซิเจนนานๆ มีผลต่อสมองอย่างไร เส้นเลือดบวมอย่างไร เรามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เรากำลังสู้กันด้วยหลักของนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่คำกล่าวอ้างลอยๆ ของผู้ต้องหา" นายสมพงษ์ กล่าว
รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันเรื่องไบโพลาร์ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น เราดูจากหลักฐานในการกระทำตามคลิป คนเป็นไบโพลาร์ เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทำไมไม่เกรี้ยวกราดต่อ แต่ทำไมกลับมีอาการตกใจ ปั๊มหัวใจ สั่งให้ทำลายหลักฐาน ลบคลิปกล้องวงจรปิดทั้งหมด คนเป็นไบโพลาร์ทำไม่ได้ เพราะลักษณะของ ผกก.โจ้ นั้นรู้ผิดชอบชั่วดี มีการให้พาไป รพ. พฤติการณ์ตามคลิปไม่แสดงเลยว่าเขามีอาการไบโพลาร์ ที่จะนำมาเป็นเหตุลดโทษได้ จากพฤติการณ์แวดล้อมที่กระทำ อย่างไรก็ตามเรากำลังเร่งสำนวนการสอบสวนให้เสร็จประมาณสัปดาห์หน้า สำนวนการสอบสวนชันสูตรพลิกศพ ต้องนำมาประชุมร่วมกันแล้วนำมาส่งให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อไต่สวน คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน จะสามารถส่งสำนวนต่อศาลให้พิจารณาคดีได้ โดยขณะนี้ได้ทำการตั้งข้อกล่าวหาคือ 1. ฆ่าคนตายโดยทรมานโหดร้าย 2. หน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุแก่ความตาย 3. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยกฎหมาย ส่วนในวันนี้ ผกก.โจ้ พร้อมกับพวก อยู่ในอาการสงบ ไม่มีอาการเครียดเหมือนวันแรกๆ ทุกคนให้ความร่วมมือสอบสวนเป็นอย่างดี.
...