เปิดวันแรกโดนเลย หลังผ่อนล็อกดาวน์ คนร้ายแต่งชุดไรเดอร์ ค่ายฟู้ดแพนด้า ควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทองร้านดัง ในห้างบิ๊กซีปากช่อง ยิงเจ้าของร้านเจ็บ 1 กวาดทองรูปพรรณ ซิ่ง จยย.เผ่นหนี ตำรวจเร่งระดมกำลังล่าตัว
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 1 ก.ย. 64 ร.ต.ท.ปวรปรัชญ์ ศิลปะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุจี้ชิงทองร้านเพชรทองเยาวราช เลขที่ 299 ภายในศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาปากช่อง ริมถนนมิตรภาพสายเก่าเข้าเมืองปากช่อง ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจชุดป้องกันปราบปราม และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นครราชสีมา
ที่เกิดเหตุอยู่ในศูนย์การค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า ขณะก่อเหตุคนร้ายได้ยิงปืน 2 นัด ส่งผลให้ นายดิษฐวัฒน์ อาศัยธรรม อายุ 39 ปี เจ้าของร้านทองได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างวิชชาธรรมสถานได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ปากช่องนานา ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ที่หน้าร้านยังพบก้อนวัตถุสีดำที่ถูกไฟไหม้ตกอยู่ 1 ก้อน และกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 ลูกด้วย
จากการสอบถาม น.ส.กาญจนา ฟุ้งกลาง อายุ 28 ปี พนักงานประจำร้านทอง เล่าว่า ร้านเพิ่งเปิดวันแรก และจะปิดในเวลา 20.00 น. มีพนักงานหญิงอยู่ด้วยกัน 3 คน ขณะเกิดเหตุมีชายสวมชุดฟู้ดแฟนด้า นุ่งกางเกงยีนส์สีฟอก สวมหมวกโม่งสีดำ ใส่แว่นตาปรอทสะท้อนแสง เดินถือกระเป๋าส่งสินค้ามาวางบนตู้ใส่ทอง จากนั้นคนร้ายเปิดกระเป๋าหยิบขวดพลาสติกออกมาวาง จากนั้นใช้ไฟแช็คจุดสิ่งของในขวดจนเกิดควัน และเดินอ้อมไปบริเวณตู้เก็บทอง พร้อมล็อกคอตนและเอาปืนจ่อที่หัว บังคับให้ตนและเพื่อนพนักงานกวาดทองจากถาดในตู้โชว์ใส่ในกระเป๋า ด้วยความกลัว ตนกับเพื่อนพนักงานจึงช่วยกันหยิบใส่
...
ส่วน นายดิษฐวัฒน์ (เจ้าของร้าน) นั่งอยู่หลังร้านได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งออกมาบอกพนักงานร้านแว่นท็อปเจริญซึ่งอยู่ติดกันให้ช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เมื่อเดินย้อนกลับเข้าไปในร้านเห็นคนร้านเผลอ จึงวิ่งเข้าล็อกคอคนร้ายดึงออกมานอกร้าน แต่คนร้ายเอี้ยวตัวยิงใส่ นายดิษฐวัฒน์ กระสุนเข้าบริเวณต้นแขนซ้ายทะลุชายโครงด้านหลัง หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งออกไปขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาว ที่จอดอยู่ประตูด้านหลัง ขับออกไปทางประตูด้านหลัง ซึ่งสามารถไปออกถนนบายพาส และสามารถหลบหนีได้อีกหลายเส้นทาง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะนี้ยังไม่ทราบน้ำหนักทองที่คนร้ายได้ไป แต่ทราบว่าได้ทองไปทั้งหมด 6 ถาด มีทั้งน้ำหนัก 1 สลึง 2 สลึง และ 1 บาท ส่วนชุดที่คนร้ายใช้สวมใส่ก่อเหตุนั้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นพนักงานส่งอาหารจริง เบื้องต้นกำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางหลบหนี และระดมกำลังเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.