หนุ่มอินเดียโหด ฆ่าหั่นศพเพื่อน แค้นชี้ให้ตม.จับ เสียเงินไป 8 หมื่น

หนุ่มอินเดียวัย 29 ปี มาทำงานและพักอยู่ย่านคลองหลวง ปทุมธานี ถูกตำรวจจับได้ หลังก่อเหตุฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติวัย 52 ปี แค้นถูกชี้ให้ ตม.จับ 2 ครั้ง และเสียเงินไปถึง 8 หมื่นบาท เลยวางแผนโทรชวนมากินข้าวที่ห้องแล้วทุบด้วยไม้จนตาย หั่นศพแยกเป็น 2 ชิ้น ใส่ถุงนำไปทิ้งที่พื้นที่ธัญบุรี   

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.ย. 64 ที่ ซอยรังสิต-นครนายก 17 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันค้นหา ศพนายมะแฮดเซ็ง อายุ 52 ปี ชาวอินเดีย หลังจากถูกนายรีวีปะกาเซ็ง อายุ 29 ปี ชาวอินเดียด้วยกันฆ่าตายในห้องพักย่านคลองหลวง ก่อนหั่นศพเป็น 2 ท่อน แล้วนำมาทิ้งไว้ในซอยแห่งนี้ 2 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมตามหาจนพบ

จากการสอบถามนายซูเรีย อายุ 38 ปี เพื่อนผู้ตาย และเพื่อนคนร้ายชาวอินเดีย เผยว่า จากการพูดคุยกับนายรีวีปะกาเซ็ง ผู้ต้องหา อ้างว่า คนตายเป็นคนแจ้งตำรวจ ตม.ให้มาจับ โดยครั้งแรกเสียเงินไป 50,000 บาท และครั้งที่สอง 30,000 บาท เพิ่งประกันตัวออกมา โดยเมื่อเวลาเที่ยงวัน วันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายได้ให้คนตายที่พักอยู่แถวสะพานแดงมาหาที่ห้อง บอกว่า ชวนมากินข้าว จากนั้นได้ใช้ไม้ทุบจนเสียชีวิตคาห้องพัก ก่อนใช้มีดหั่นออกเป็น 2 ส่วน แล้วนำถุงมาห่อไว้ พอตกกลางคืนได้ขี่รถ จยย. นำศพออกไปทิ้งโดยทิ้งทีละชิ้น

ทางด้าน นายรีวีปะกาเซ็ง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนฆ่านายมะแฮดเซ็ง อายุ 52 ปี ชาวอินเดีย เพราะแค้นที่ผู้ตายแจ้งตำรวจ ตม. ให้จับกุมก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้ง โดยวางแผนโทรตามให้มากินข้าวที่ห้องแล้วลงมือฆ่า ก่อนหั่นศพแยกเป็น 2 ชิ้น นำไปทิ้ง

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.คลองหลวง พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พันตำรวจเอกธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง  พันตำรวจโท เสฎฐพงศ์ ทรงกลด รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง พันตำรวจตรี สิรภพ บัวหลวง แลพันตำรวจตรี วีระ สุขชนะ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา MR.RAVIPRAKASH SING สัญชาติอินเดีย สถานที่จับกุม สภ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมด้วยของกลาง 1. รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน 2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 8กฎ 7558 กทม. 1 คัน 3.หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ 1 ใบ 4. อาวุธมีด 1 เล่ม 5. ท่อนเหล็กยาวประมาณ 50 ซ.ม. 1 ท่อน

พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ตามประจำวันข้อ 1 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 00.00 น. MR.SURYA PRATAP SHAHI (สัญชาติอินเดีย) อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โทร.093-7300004 มาแจ้งความพนักสอบสวน สภ.คลองหลวง ว่า MR.MAHESH SINGH อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้แจ้ง ได้หายตัวออกจากบ้านพักพร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 10.30 น. โดยแจ้งว่าจะไปหาเพื่อน และปัจจุบันยังไม่กลับบ้านเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้สืบทราบว่าตามวันเวลาที่ได้รับแจ้ง MR.MAHESH SINGH ก่อนที่จะหายตัวไปได้มีการนัดพบกับ MR.RAVIPRAKASH SING (สัญชาติอินเดีย) ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหรือมีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปดังกล่าว โดย MR.RAVIPRAKASH SING ถูกจับกุมตัวในข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการสิ้นสุด (OVERSTAY)" และประกันตัวออกมาจนในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ได้เดินทางไปขึ้น และศาลตัดสินให้ผลักดันออกนอกราชณาอาจักร นำตัวมาฝากขังไว้ที่ สภ.คลองหลวง เพื่อรอผลักดันต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เบิกตัว MR.RAVIPRAKASH SING มาเพื่อสอบถามในกรณีดังกล่าว และรับว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ใช้ท่อนเหล็กตีจน MR.MAHESH SING เสียชีวิติที่ห้องพักของตนเอง โดยในวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ช่วงเวลาเช้า MR.RAVIPRAKASH SING ได้โทรหา MR.MAHESH SING บุคคลที่หายตัวไปให้เข้ามาพบตนเองที่หอพักไม่มีชื่อ ห้อง 6 ซอยคลองหลวง 8 ม.1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อมาถึงมีการพูดคุยและใช้จังหวะที่ MR.MAHESH SING ช่วงไม่ระวังตัว ตนเองได้ใช้ท่อนเหล็กตีศรีษะ MR.MAHESH SING จนเสียชีวิต

สาเหตุมาจากความขัดแย้ง ปัญหาเรื่องข้อพิพาทที่ดินของทั้งคู่ในประเทศอินเดีย และความแค้นที่ MR.RAVIPRAKASH SING ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเจ้าเมืองจับกุมกรณี OVER STAY โดยเชื่อว่าบุคคลที่หายตัวไปเป็นผู้แจ้งตำรวจมาจับตนเอง หลังก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดหั่นศพผู้ตายออกเป็นสองท่อน และนำชิ้นส่วนศพไปทิ้งริมถนนภายในซอยรังสิต-นครนายก 17 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นำรถจักรยานยนต์ของคนตายไปจอดทิ้งไว้ที่ใต้สะพานลอยหน้าบริษัท บริสโตน และเก็บดอกกุญแจรถของผู้เสียชีวิตไว้ที่ตน และสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตตามสถานที่ดังกล่าว

ต่อมา MR.RAVIPRAKASH SING ได้สมัครใจ นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่ทิ้งศพของผู้ตายภายในซอยรังสิต-นครนายก 17 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดท่อนเหล็กและอาวุธมีดที่ใช้หั่นศพผู้ตาย ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักของตนภายในซอยคลองหลวง 8 ม.1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี