ลุงวัย 62 สุดทนลูกเมายาทำร้ายมาหลายปี ชัก 11 มม. จ่อยิงหัวดับก่อนยิงตัวเองสาหัส ญาติรีบนำส่ง รพ. แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านแม่ เผย ลูกชายชอบเสพยาแล้วทำลายข้าวของทุบตีพ่อแม่ ทำพ่อเครียดจิตตก

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 31 ส.ค. 64 ร.ต.ท.ณัฐนนท์ เจียรวนานนท์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานงาน จนท.พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี และรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.โพธาราม และ จนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุบริเวณหลังบ้าน พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ลักษณะศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ขายาว มีผ้าเช็ดหน้าคล้องคอไว้ นั่งเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้สำนักงานสีดำ ทราบชื่อต่อมา คือ นายร่มฉัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ลูกชายคนโตของเจ้าของบ้าน ข้างตัวพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ใกล้กับเก้าอี้สำนักงาน จากการตรวจสอบพบถูกจ่อยิงกลางศีรษะกระสุนฝังใน 2 นัด ห่างออกมา 2 เมตร พบกองเลือดจำนวนมากและพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. และปลอกกระสุนปืนอีก 1 ปลอก โดยผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นายร่มไทร อายุ 62 ปี เป็นเจ้าของบ้านและพ่อของ นายร่มฉัตร จนท.กู้ภัยได้รีบนำตัวส่ง รพ.โพธาราม เนื่องจากได้จ่อยิงตัวเองที่ขมับขวาทะลุขมับซ้ายอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

...

จากการสอบถามนางขวัญใจ อายุ 62 ปี ภรรยาและแม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายที่เสียชีวิต ชอบเสพยาและจะอาละวาดทำลายข้าวของ และทุบตีพ่อแม่และญาติพี่น้องอยู่เป็นประจำทุกครั้งที่มีการเสพยา โดยก่อนเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าลูกชายได้ทะเลาะและทำลายข้าวของภายในบ้าน จนช่วงบ่าย 4 โมง สามีของตนได้บอกให้ตนไปนำวัวลานเข้าคอก โดยตนพยายามชวนสามีให้ไปด้วยกัน เพราะกลัวลูกชายจะทำร้ายเอา แต่สามีของตนอ้างว่า ปวดหัวจะขออยู่บ้าน หลังตนออกไปนำวัวเข้าคอกได้ไม่เกิน 15 นาที ตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตนจึงรีบวิ่งกลับมาดูที่บ้านก็พบลูกชายถูกยิงเสียชีวิต และสามีของตนก็ยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บจนมาเสียชีวิตต่อมาเช่นกัน

ขณะที่ นายกิตติ สิริสมบูรณ์ กำนัน ต.คลองตาคต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่านายร่มไทร ผู้เป็นพ่อ น่าจะเก็บกดเกี่ยวกับลูกชายที่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยทุกครั้งที่เสพยามาก็จะอาละวาดทำลายข้าวของ และทุบตีพ่อแม่และญาติ โดยผู้เป็นพ่อเคยส่งลูกชายไปบำบัดหลายครั้ง แต่เมื่อกลับมาก็มีพฤติกรรมอาละวาดทำร้ายทุกคนภายในบ้านเหมือนเดิม โดยผู้เป็นพ่อที่เป็นผู้ช่วยของตน มักจะมาปรับทุกข์ให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง จนช่วงหลังๆ ที่ผ่านมา ผู้เป็นพ่อคิดมากจนกลายเป็นคนไม่ร่าเริง ไม่ค่อยออกไปสังคมกับเพื่อนบ้าน เพราะคงเจอเหตุการณ์ลูกชายอาละวาดและทำร้ายอยู่บ่อยๆ จนจิตตก

เบื้องต้น จนท.ตำรวจ ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมจะได้เรียกสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตเพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนศพของผู้เป็นพ่อทางญาติจะนำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านของผู้เสียชีวิต ส่วนศพของลูกชายจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไทรอารีรักษ์ โดยจะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพียง 1 คืน.