รองต๊ะ บช.น.เผยตัวเลขดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จนถึงปัจจุบัน รวม 154 คดี มีผู้ต้องหาที่เข้าข่ายความผิด 615 คน สามารถจับได้แล้ว 345 คน
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันนี้ มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกลุ่มทะลุแก๊ส มีการนัดหมายชุมนุม ที่บริเวณแยกดินแดง โดยยังไม่กำหนดเวลาที่แน่ชัด โดยย้ำว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การจัดกิจกรรมลักษณะรวมกลุ่มเสี่ยงต่อโรค มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการชุมนุม บริเวณแยกดินแดง ตำรวจได้มีการปรับกำลังและยุทธวิธี เพื่อให้กระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวน้อยที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการปะทะ และนำมาตรการอื่น เช่น การบันทึกภาพหลักฐาน เพื่อมาดำเนินคดีในภายหลัง ขณะเดียวกัน ยังได้รับร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่แฟลตดินแดงแสดงออกชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม หรือใช้ประชาชนในพื้นที่เป็นแนวกันชน และไม่ใช่คนในพื้นที่ที่ปาสิ่งของ หรือวัตถุระเบิดใส่เจ้าหน้าที่
สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จนถึงปัจจุบัน รวม 154 คดี มีผู้ต้องหาที่เข้าข่ายความผิด 615 คน สามารถจับได้แล้ว 345 คน โดยมีการออกหมายเรียกผู้ที่เข้าข่ายความผิดทั้งสิ้น 160 คน แบ่งเป็นแกนนำ 21 หมาย และผู้ชุมนุมอื่นๆ 139 หมาย นอกจากนี้ ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ปกครองของผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน เข้ารับข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วย ช่วงที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ที่ประกอบวัตถุระเบิดจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และรับสารภาพว่า เตรียมใช้ก่อเหตุในการชุมนุมวันที่ 29 ส.ค. โดยจะมีการกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง
...
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 29 ส.ค. นำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่จะมีการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ Car Mob - Call out โดยเส้นทางเริ่มต้นที่อุโมงค์ทางลงแยกเกษตรว่า ฝ่ายความมั่นคง ได้มีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าจะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกับที่ผ่านๆ มา แต่ก็ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเช่นกัน
โดยตำรวจจะมีการรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีในทุกพื้นที่ ทั้งผู้ประกาศชักชวน ผู้สนับสนุน หรือผู้ที่เปิดบัญชีขอรับบริจาคในลักษณะท่อน้ำเลี้ยง รวมถึงผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมด้วย โฆษก บช.น. กล่าวด้วยว่า ในการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ จะถือว่ารถที่นำมาใช้ เป็นทรัพย์สินที่มีไว้ใช้ในการกระทำผิดด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวน อาจมีคำขอร้องขอต่อศาล ยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเตือนว่าผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุม ที่มีภาพปรากฏผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จะถือว่าเป็นพยานหลักฐานสำคัญ ในการดำเนินคดีด้วย และก่อนการชุมนุม เจ้าหน้าที่จะมีการสืบสวนหาข่าวอย่างใกล้ชิด