รองโฆษก ตร.ยืนยันคดี ผกก.โจ้ไม่ได้สองมาตรฐาน ส่วนผู้ต้องหาไม่ยืนยันว่าออกประเทศไปหรือยัง ปมจ่ายเงินให้ครอบครัวผู้ต้องหาผิดแน่เพราะเป็น จนท.รัฐ ส่วนที่มีนอมินีถือทรัพย์สินกำลังรวบรวมหลักฐาน   

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน ที่ก่อเหตุทรมาน ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จนทำให้เสียชีวิตนั้น ว่า ขณะนี้ ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้มีการออกหมายจับแล้ว 7 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 4 คน ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นฯ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ซึ่งมีอายุความ 20 ปี

ขณะที่ มีรายงานว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ พิจารณาในส่วนของคดีอาญา ส่วน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ดูในด้านของทางวินัย เบื้องต้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ส่วนกรณีที่อดีตแฟนดาราสาว ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้โพสต์ข้อความ ว่าผู้ต้องหาได้ฝากเงินไว้ที่ตัวแทนถือหลักทรัพย์ หรือ นอมินี จำนวน 230 ล้านบาท รวมถึงรถยนต์หรู นั้น เบื้องต้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนอดีตผู้กำกับคนดังกล่าวยังอยู่ในเมืองไทยหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนคงทราบดี ส่วนหากเจ้าหน้าที่ขยายผลแล้วพบว่าผู้อื่นเกี่ยวข้องก็จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนกระแสข่าวว่า ครอบครัวของผู้ต้องหารับเงิน จากอดีตผู้กำกับคนดังกล่าวจำนวน 5 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่า หากมีการจ่ายเงินจริงผู้ที่จ่ายเงินยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วย มีความผิดอย่างแน่นอน ส่วนผู้รับนั้น ต้องพิจารณาก่อน

...

ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย ดำเนินการตามกระบวนการไม่มีการช่วยเหลือการแต่อย่างใด และยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ซึ่งยังรวมถึงการตรวจสอบด้วยว่า ใบรับรองการชันสูตรของแพทย์ มีความถูกต้องหรือไม่ หรือมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือ หรือไม่ หรือยังมีใครเข้าข่ายการกระทำความผิด ก็ต้องตรวจสอบและนำตัวมาดำเนินคดีด้วยเช่นกันหากพบว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมาย.