พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เตรียมลงนามให้ ผู้กำกับโจ้ ออกจากราชการภายในวันนี้ ลั่นนิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง สั่งกำชับไปแล้ว ทั้ง ตชด. ตม. บช.ภ.6 อย่าปล่อยให้หลบหนี

กรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ถูกร้องเรียนรีดเงินคดียาเสพติด 2 ล้านบาท และใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต จากนั้นได้มีคำสั่งเด้งให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 (ศปก.ภ.6) ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม ขณะที่โลกโซเชียลเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์หัวเกรียนกำลังใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวชายสวมเสื้อสีเหลือง โดยเหยื่ออยู่ในอาการขัดขืน ซึ่งเพจทนายษิทรา ระบุว่า "เปิดคลิปผู้กำกับโจ้ คลุมถุงรีดเงิน 2 ล้านฆ่าพ่อค้ายา" นั้น

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 24 สิงหาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.กล่าวกรณี ผกก.โจ้ จะแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นการดำเนินการทางวินัย โดยให้จเรตำรวจแห่งชาติลงไปดำเนินการ 2 วันแล้ว มีการตรวจสอบคลิปที่ปล่อยออกไปด้วย วันนี้จเรตำรวจแห่งชาติเสนอมาและมีความเห็นประกอบมาด้วย ถ้ามีความเห็นว่ากระทำจริงคงต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน ยังรอหนังสือนิดเดียว เป็นเรื่องธุรการ เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานชั้นต้น เสร็จวันนี้นะครับ

“ดูจากที่เห็นผมคิดว่า ยังไงก็คงให้ออกจากราชการ เพราะวิญญูชนทั่วไปสามารถตัดสินได้ เรายังไม่ได้บอกเขาผิดนะ แต่จากพยานหลักฐานเราเชื่อ เมื่อตั้งกรรมการวินัยร้ายแรง ก็ต้องออกจากราชการได้ สำหรับ ผกก.โจ้ ทางบก.ภ.จว.นครสวรรค์ สั่งให้พ้นหน้าที่ไปเมื่อ 2 วันก่อน แต่ในส่วนของ ตร.เอง เราคงไม่ใช่อย่างนั้น จะให้มาปฏิบัติราชการที่ส่วนกลาง เพื่อให้พ้นจากพื้นที่มา ในขณะที่สั่งให้ออกก็คือออกเลย ก็ดูวันนี้ ผมก็เชื่อว่าวันนี้จบแน่” ผบ.ตร.กล่าว

...

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นคลิปจริงใช่ไหม ผบ.ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้ตรวจสอบ ทางจเรฯ เองก็เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า อีกส่วนเป็นเรื่องการสอบสวนคดีอาญาแผ่นดิน กรณีทำให้ตายมอบให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ลงไป ต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ พล.ต.อ.สุชาติกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ พร้อมเมื่อไหร่ก็เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา

เมื่อถามว่า เกรงว่า ผกก.โจ้ จะหลบหนีหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า กำชับไปแล้ว ทั้ง ตชด. ตม. บช.ภ.6 อย่าปล่อยให้หลบหนี เมื่อถามว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกี่คน ผบ.ตร.กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานมาด้วยวาจาประมาณ 13 คน เดี๋ยวรอเป็นลายลักษณ์อักษรค่อยว่ากันอีกที

เมื่อถามว่าจะให้ออกจากราชการทั้ง 13 คนหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เดี๋ยวรอดูรายงานมาอีกที เราคุยกันตลอดเวลาและจะให้เรื่องจบวันนี้ แต่อย่าลืมว่าการให้ใครออกจากราชการมันต้องเป็นไปตามกติกา ตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า คนที่ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะจนสลบไป ใช่ผกก.โจ้ หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน เป็นเรื่องของการสอบสวนเป็นเรื่องของคดีแล้ว แต่ทางวินัยเราไม่เอาไว้

“เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่จะต้องมีคนที่ต้องสูญเสียไป ฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกคนดูไว้เป็นตัวอย่าง ทำอะไรที่ไม่ดีไม่มีทางที่จะพ้นไปได้เลย แล้วสิ่งที่ตามมามันเสียหาย แต่ว่านิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง คนส่วนใหญ่จะได้เดินต่อได้ ผมเชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังดีอยู่ แต่คนที่ทำไม่ดี คนเลวๆ ก็ต้องรับผลกรรมที่ได้ทำลงไป เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นที่เหลือเดินไม่ได้

“ฝากเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ดูไว้ให้ดีว่านี่คือสิ่งที่เกิดจากผลของการกระทำ จะด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่ เราเป็นผู้รักษากฎหมาย เราเป็นคนรักษากติกาสังคม ถ้าเขาไม่ไว้ใจเรา ก็อยู่กันไม่ได้ประเทศนี้ กรณีนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น มันต้องมีอยู่แล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีก็ไม่สบายใจ บอกผมว่าทำอะไรทุกอย่างให้มันดีขึ้นให้ได้ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่ผมบอกถ้าเขาไม่เชื่อมั่นเรา มันอยู่ไม่ได้ ตำรวจ 2 แสนกว่าคนทุกคนต้องช่วยกัน ทำองค์กรให้มันดีให้ได้ คนมันก็มีหลากหลาย ใครไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง” ผบ.ตร.กล่าวเปิดใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะตรวจสอบประวัติ ผกก.โจ้ ย้อนหลังว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้คุยกันหมดแล้วเรื่องนี้ ให้สืบสวนย้อนหลังไปด้วยว่าที่ผ่านๆ มาเป็นอย่างไร รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย

เมื่อถามว่าจะปกป้องดูแลตำรวจที่นำข้อมูลมาร้องเรียนอย่างไร ผบ.ตร.กล่าวว่า คนที่เป็นพยานในคดี มีกรรมวิธีของมันอยู่แล้ว ต้องดูเหตุผลอื่นประกอบด้วย ไม่ต้องห่วงพยานหลักฐานเรารักษาได้อยู่แล้ว จะทำให้เกิดความเสียหาย ไม่มี