จตช. ชื่นชม รอง สวป.ขุขันธ์ ที่อดทนต่อวัยรุ่นหัวร้อน ที่ใช้กิริยาก้าวร้าว ท้าทาย ยั่วยุ ล่วงเกิน และด่าอย่างรุนแรง แต่อดทนรับมือได้ ซึ่งถือเป็นการรับมือเหตุเผชิญหน้าด้วยความเป็นมืออาชีพ ควรเป็นแบบอย่างแก่ ขรก.ตำรวจ
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีคลิปภาพผู้ต้องหาชายวัยรุ่น กำลังใช้วาจาหยาบคายด่าว่า ร.ต.อ.อาภากร โสภา รอง สวป.สภ.ขุขันธ์ จว.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ หลังจากตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยของผู้ต้องหาคนดังกล่าว โดยผู้ต้องหาได้ใช้ถ้อยคำพาดพิงถึงบุพการี และยังแสดงกิริยาก้าวร้าว ท้าทาย ยั่วยุ ล่วงเกิน อย่างรุนแรง แต่ ร.ต.อ.อาภากร และเจ้าหน้าที่สายตรวจที่เกี่ยวข้อง มิได้แสดงกิริยา วาจา ที่มีลักษณะความรุนแรงเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงใช้หลักกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายดังกล่าวตามลักษณะความผิดในกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น จนเป็นเหตุให้ ศาลพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาจำคุก 2 ปี โทษจำรอลงอาญา และปรับ 2,500 บาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ผู้ต้องหาดังกล่าว ได้เข้าขอขมาต่อ ร.ต.อ.อาภากร และข้าราชการตำรวจ สภ.ขุขันธ์ ดังปรากฏต่อสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ซึ่งการกระทำของ ร.ต.อ.อาภากร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ขุขันธ์ ได้รับเสียงชมจากสาธารณชน ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงสื่อมวลชนแขนงต่างๆ จำนวนมาก ถือเป็นการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวม ตามหลักประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจที่ดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จชต. จึงขอแสดงความชื่นชม และขอชมเชย ร.ต.อ.อาภากร โสภา ตลอดจน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวทุกนาย ที่ได้นำอุดมคติตำรวจ โดยเฉพาะหลักการ "อดทนต่อความเจ็บใจ" มาใช้รับมือกับเหตุการณ์เผชิญหน้า ด้วยวุฒิภาวะของความเป็นมืออาชีพ สมกับคำว่า "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" อย่างแท้จริง สมควรเป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการตำรวจโดยรวม พร้อมถือโอกาสนี้เป็นกำลังใจให้รักษาคุณความดีในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเช่นนี้ไว้สืบไป.
...