ผบช.น.ระบุจำเป็นต้องสลายม็อบ 17 สิงหา เพื่อลดความรุนแรง ไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย พร้อมขออภัยชาวดินแดงที่ได้รับผลกระทบ ส่วนกรณีหน่วยสวาทมีอาวุธจริง นั้นแค่เตรียมความพร้อมตามยุทธวิธี จะใช้เมื่อมีเหตุจำเป็น
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่สนามบุณยะจินดา พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงภาพรวมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการสลายการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 64 ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้าเริ่มชุมนุมตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยนัดหมายที่แยกราชประสงค์จากนั้นเคลื่อนไปที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ หลังจากนั้นมีการก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งทางตำรวจเห็นว่าหากไม่ระงับ ก็อาจมีเหตุบานปลายได้ จึงเข้าสลายการชุมนุม
จากนั้นผู้ชุมนุมบางส่วนมีการย้ายไปที่เเยกดินแดง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางตำรวจพยายามเคลียร์พื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อเร่งเปิดการจราจรให้ประชาชน แต่หลังจากนั้นปรากฏว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงกลับมาปะทะกับเจ้าหน้าที่อีก แต่สุดท้ายก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย มีการเเจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ
ส่วนสถานการณ์ชุมนุม ณ ปัจจุบัน คาดการณ์ว่าอาจมีการนัดหมายแทบทุกวัน ทางตำรวจก็เตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา ซึ่งในมุมของเจ้าหน้าที่อยากให้บ้านเมืองสงบ ไม่อยากให้มีการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องขอโทษประชาชน โดยเฉพาะชาวดินแดง หากได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม แต่อยากให้เข้าใจว่าตำรวจไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกสถานที่ชุมนุม และที่ผ่านมามีการประกาศห้ามอย่างชัดเจน
ส่วนกรณีที่มีรถของชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท จาก บก.ภ.จว.นครปฐม ซึ่งหน่วยปฏิบัติการดังกล่าวมีอาวุธจริงประจำกายนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมตามยุทธวิธี จะใช้เมื่อมีเหตุจำเป็น กรณีปกป้องชีวิตและทรัพย์สอนของประชาชนเท่านั้น โดยจะอยู่ในที่ตั้งบริเวณแยกดินแดง จะใช้ตามสถานการณ์ ซึ่งในทางปฏิบัติเเล้วยังไม่ได้ใช้
...
ส่วนความคืบหน้าทางคดี กรณีเด็กอายุ 14 และ 15 ปี ถูกยิง ทางตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ ขณะนี้เริ่มมีความคืบหน้าเเล้ว หากติดตามข่าวสาร ทางตัวผู้บาดเจ็บและญาติก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบางช่องไปเเล้ว ว่าอาจมีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ถือปืนมาก่อเหตุ ซึ่งทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย.