พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ชี้แจงภาพชายยืนอยู่บน สน.ดินแดง และใช้ปืนยิงควบคุมสถานการณ์ ยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง แต่เป็นการใช้กระสุนยางยิงข่มขู่เพื่อป้องกันสถานที่ราชการ

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ทางการเมือง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้ชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้ารวมตัวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนที่ไปยังทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะกลับมาที่สามเหลี่ยมดินแดงและมีเหตุประทะกันรวมทั้งป้อมจราจรได้รับความเสียหาย 4 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ สน.นางเลิ้ง สน.พหลโยธิน สน.สุทธิสาร และ สน.ห้วยขวาง ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 13 คน เป็นเยาวชน 5 คน

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบริเวณ สน.ดินแดง จนมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 คน คนแรกอายุ 14 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบชนิดที่ไหล่ขวา สอบถามเบื้องต้นให้การว่า ไปร่วมชุมนุมหน้า สน.ดินแดง และถูกยิงโดยไม่ทราบผู้ก่อเหตุ จากนั้นได้หลบหนีมาหาเพื่อนพักอยู่แฟลต 13 จากนั้นรถกู้ภัยได้มาทำแผลเบื้องต้น และได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.จุฬาฯ อาการปลอดภัย ขณะที่บิดาของผู้บาดเจ็บบอกว่า ลูกชายถูกยิงขณะขี่รถจักรยานยนต์บริเวณโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง แต่ยังไม่แน่ชัดเนื่องจากได้คุยกันแค่เบื้องต้น

ส่วนคนที่สอง อายุ 20 ปี ถูกยิงบริเวณแยกดินแดง มุ่งหน้าแยกประชาสงเคราะห์ นำส่ง รพ.ราชวิถี ตรวจสอบไม่พบเอกสารแสดงตัว ถูกยิงบริเวณลำคอ วัตถุเป็นโลหะค้างที่บริเวณลำคอ ขณะนำส่งโรงพยาบาล คนเจ็บหมดสติ ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี มีอีกหนึ่งคน อายุ 16 ปี ถูกโลหะยิงเข้าที่บริเวณเท้าขวา รักษาตัวที่ รพ.เพชรเวช และแพทย์ให้กลับบ้านแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน

...

ส่วนกรณีมีภาพเป็นชายยืนอยู่บน สน.ดินแดง และใช้ปืนยิงควบคุมสถานการณ์ ผบช.น.กล่าวยืนยันว่า เป็นตำรวจจริง แต่เป็นการใช้กระสุนยางยิงข่มขู่เพื่อป้องกันสถานที่ราชการ ไม่มีการใช้กระสุนจริง โดยจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสถานีตำรวจอีกครั้ง เบื้องต้นพบว่ากล้องบางตัวสามารถจับภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของผู้บาดเจ็บได้อย่างชัดเจน กล้องบางตัวถูกผู้ชุมนุมนำวัสดุมาปิดกั้น และช่วงบ่ายวันนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปจำลองเหตุการณ์และตรวจวิถีกระสุนในระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ากระสุนที่ผู้บาดเจ็บถูกยิงมาจากทิศทางใด แต่ยอมรับว่าในพื้นที่มีการใช้กระสุนจริงจากบุคคลไม่ทราบฝ่าย แต่ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับยุทธวิธีการควบคุมฝูงชนนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติตามแผน และเครื่องมือที่ได้รับการอนุมัติจากมติคณะรัฐมนตรีแล้วเป็นอาวุธที่ไม่สามารถทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ผู้ชุมนุมมีอาวุธที่สร้างอันตรายกับตำรวจ และตำรวจจะเริ่มตอบโต้เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ความรุนแรง มีการเผาทำลายสถานที่ราชการ และจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า มีประเด็นพิจารณา 3 ประเด็น 1.ทาง บช.น.ขอยืนยันว่า ตำรวจที่เข้าไปฏิบัติหน้าที่เรื่องการควบคุมฝูงชน ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมฝูงชนได้รับการอนุญาตให้ใช้ตามมติ ครม.ยืนยันว่าไม่มีการใช้อาวุธปืนจริง 2.จากการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พบว่าผู้บาดเจ็บคนหนึ่งวิ่งมาจากโรงแรมปริ๊นซ์ตัน มาล้มลงบริเวณโรงบำบัดน้ำเสีย อีกรายอยู่บริเวณโรงบำบัดน้ำเสียไกลจาก สน.ดินแดงพอสมควร รวมทั้งมีข้อจำกัดในการมอง ทัศนวิสัย และสิ่งบดบัง 3.บริเวณที่เกิดเหตุมีผู้ชุมนุม และมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงอยากขอความร่วมมือ ถ้ามีบุคคลใครก็ตามที่รู้เห็นเหตุการณ์ หรือสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ ขอให้นำมามอบให้ทางพนักงานสอบสวน ด้านคดีมอบหมายให้ พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนดำเนินการเรื่องนี้

ส่วนกรณีการแชร์ข้อมูลที่บอกว่าผู้ชุมนุมถูกกระป๋องแก๊สน้ำตาเข้าที่ใบหน้าจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำหนังสือขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยรายละเอียดการรักษา และบาดแผลว่าเกิดจากอะไร ผบช.น. ได้กล่าวพร้อมกับนำกระป๋องแก๊สน้ำตามาแสดงต่อสื่อมวลชนว่า ส่วนที่เป็นโลหะเป็นปลอกกระสุน หลังยิงไปแล้วจะค้างอยู่ในลำกล้อง ส่วนที่ยิงออกไปคือวัสดุคล้ายยางทรงกระบอกที่ภายในบรรจุแก๊สน้ำตา เมื่อกระทบกับร่างกายจะไม่เกิดอันตราย และหากพบว่าผู้ใดมีการแชร์ข้อมูลที่ผิดก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในช่วงระหว่างเดือน ก.ค.ถึงปัจจุบัน มีแล้ว 40 คดี ผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิด 309 คน จับแล้ว 152 คน และกำลังสอบสวนผู้ที่กระทำความผิดเพิ่มเติม.