ป้าที่อุ้มเด็ก 7 ขวบเป็นตัวประกัน เพื่อหวังบีบให้ยายของเด็กเอาเงินมาจ่ายให้แก๊งเงินกู้รายวัน หลังโดนทวงหนี้เพราะไปค้ำประกัน โดนคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วน ตร.ขยายผลล่าแก๊งทวงหนี้ตัวต้นเหตุ

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.64 กรณีนางสุทัศน์ ตีเมืองซ้าย อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ต.หินลาด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จับ ด.ช.อายุ 7 ปี โดยมีอาวุธมีดขู่บังคับให้ไปด้วย แล้วเอาไปกักขังไว้ที่บ้านญาตินานกว่า 2 ชม. เพื่อต้องการให้ นางจันทร์เพ็ญ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี คนหมู่บ้านเดียวกัน เอาเงินไปใช้คืนแก๊งเงินกู้รายวัน เนื่องจากเป็นคนค้ำประกันให้ และจ่ายไปให้หลายวันแล้ว แต่คนที่ไปยืมเงินกลับหนีหน้าทำให้นางสุทัศน์ ต้องเผชิญกับแก๊งเงินกู้รายวันเพียงคนเดียว จนเกิดความเครียด เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. (15 ส.ค.) ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุดตำรวจ สภ.บ้านกรวด ได้เรียกป้าคนที่จับเด็ก พร้อมให้นำของกลางคือมีดที่ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกรวด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐาน "กักขังหน่วงเหนี่ยว" โดยนางสุทัศน์เมื่อทราบข้อกล่าวหาถึงกับนั่งร้องไห้ เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ พร้อมระบุว่า ตนไม่เคยคิดจะทำร้ายเด็ก แต่ไม่มีทางออกที่จะเรียกร้องให้นางจันทร์เพ็ญมาสนใจ เนื่องจากติดต่อไม่ได้ ประกอบกับนางจันทร์เพ็ญประกาศว่าจะหนีหนี้ ซึ่งจะทำให้ภาระทั้งหมดตกที่ตนเพียงคนเดียว

...

ขณะที่ นางจันทร์เพ็ญ ยายของเด็กชายวัย 7 ขวบ ระหว่างที่มารอให้ปากคำกับตำรวจ ได้มีโทรศัพท์ของเจ้าหนี้โทรศัพท์มาทวงเงินที่กู้ไป โดยนางจันทร์เพ็ญยอมรับว่าเงินที่กู้มายังไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหนไปใช้แทน เพราะเสียพนันไปหมดแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.บ้านกรวด กล่าวว่า เท่าที่ทราบชาวบ้านมักจะกู้เงินรายวันมาเพื่อเอามาใช้จ่าย แต่ไม่มีเงินคืนให้ จำเป็นจะต้องไปกู้รายอื่นเพื่อเอามาจ่าย กลายเป็นดินพอกหางหมู ส่วนการเล่นการพนันนั้น พื้นที่ อ.บ้านกรวด ติดกับชายแดนไทย ซึ่งฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจะมีบ่อนเสรี ทำให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งเข้าไปเล่นการพนัน สำหรับในพื้นที่ยังไม่พบมีการเปิดการเล่นแต่อย่างใด ส่วนแก๊งปล่อยเงินกู้ตอนนี้ชุดสืบสวนกำลังติดตามหาตัว หากพบว่ามีการปล่อยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนดก็จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป.