ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง จับตัวได้แล้วหนุ่มขับปาเจโร่ชักปืนตีหัวหญิงขับแกร็บคาร์วัย 49 ปี หลังมีคลิปว่อนเน็ต อ้างเครียด ธุรกิจมีปัญหา ขอโทษคู่กรณี ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด

จากกรณีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ ไตรรัตน์ เพชรธำรงชัย ได้โพสต์ภาพคลิปเหตุการณ์พร้อมข้อความระบุว่า “วิ่งเข้าไปช่วยแล้ว เข้าไปช่วยไม่ได้ วัยรุ่นชักปืนขู่แล้วเอาปืนตบป้าที่ขับแกร็บคาร์ จากที่สอบถามผู้โดยสาร ขับช้าปกติ คู่กรณีขับเร็วมาก ถึงไฟแดงจอดขวาง และถอยมาชน ป้าก็ลงมาดูรถที่ถูกชน หลังจากนั้นเอาปืนตบหลายทีมากๆ (ฝากไว้ด้วยผู้หญิงมีอุบัติเหตุอย่าลงจากรถถ้าดูแล้วไม่ปลอดภัยครับ)” หลังเกิดเหตุนางสุรางค์ สินแก้ว อายุ 49 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ญณ 2647 กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกคู่กรณีใช้ปืนตบหน้าได้รับบาดเจ็บ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบ สน.ลาดกระบัง

โดยตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุ และรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายเสฏฐวุฒิ ผาดีอุ่น อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุ (ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน 8 กส 3242 กรุงเทพมหานคร) ตามหมายจับที่ จ.642/2564 ลง 15 ส.ค.64 ในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายโดยมีและใช้อาวุธ, ทำให้เสียทรัพย์ นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง ได้นำตัวนายเสฏฐวุฒิ ผาดีอุ่น อายุ 36 ปี ผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ สน.ลาดกระบัง โดยได้คุมตัวมาจากบ้านพักในซอยลาดกระบัง 16

...

นายเสฏฐวุฒิ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุเกิดจากความเครียดของบริษัทที่ทำธุรกิจส่วนตัวเกิดปัญหา จึงได้จึงได้ทำการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และต้องขอโทษกับคู่กรณีด้วยและยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุมาจากตนเองพยายามจะแซงคู่กรณีเพื่อเข้าเลนใน แต่ไม่สามารถแซงได้ ประกอบกับมีปัญหาส่วนตัว จึงเข้าใจว่าคู่กรณีเป็นผู้ชายกลั่นแกล้ง จึงเกิดความเครียดลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

นายเสฏฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะที่ลงจากรถก็พบว่าคู่กรณีเป็นผู้หญิง ตนเองก็จะไม่ทำแล้ว แต่ก็คู่กรณีก็ไม่ยอม พยายามกระชากเสื้อของตน ตนก็บอกกับคู่กรณีว่า “พอแล้ว พอแล้ว ปล่อยผมไปเถอะพี่” แต่คู่กรณียังไม่ยอมปล่อย จากนั้นจึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนบีบีกันตีไปที่ศีรษะ 2-3 ครั้ง ส่วนที่ต้องพกอาวุธปืนลงไปนั้น เพราะเห็นว่ามีคนเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ จึงเกรงว่าจะถูกรุมทำร้าย ประชาทัณฑ์ จึงได้นำมาเพื่อป้องกันคนรอบข้าง ไม่ได้คิดว่าจะเอามาทำร้ายคู่กรณีเลย

เบื้องต้นพนักสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียดเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.