ตำรวจตามลากคอได้แล้ว นักโทษหนีจากเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี รายสุดท้าย จนมุมคารีสอร์ตในจังหวัดอุทัยธานี ขณะอยู่กับลูกกับเมีย
กรณีนักโทษชาย 5 คน แหกคุกหนีจากเรือนจำชั่วคราวที่ใช้เป็นที่กักกันนักโทษในการแยกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนส่งเข้าเรือนจำใหญ่ ของเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการเจาะฝ้าเพดานแล้วปีนหนีออกมา ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา และสามารถติดตามจับกุมกลับมาได้แล้ว 4 คน ยังเหลือ นายอาทิตย์ กลิ่นขจร อายุ 24 ปี นักโทษคดียาเสพติด ซึ่งมีโซ่ตรวนติดอยู่ ยังคงหลบหนี โดยทางตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี อยู่ระหว่างกดดันไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2564 จากการสั่งการของ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี มอบหมายให้ พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี และ พ.ต.ท.นิยม สุ่ยวงษ์ รอง ผกก. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี เร่งออกค้นหาและติดตามกดดัน นายอาทิตย์ นักโทษคนสุดท้ายที่ยังหลบหนีอยู่ กลับมารับโทษให้ได้โดยเร็ว โดยได้สืบหาข้อมูลจนทราบว่านายอาทิตย์ ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี จึงได้ประสานกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่จากเรือนจำ จ.สุพรรณบุรี และเรือนจำ จ.อุทัยธานี ตำรวจ สภ.บ้านไร่ และ ตชด.13 เพื่อวางแผนเข้าจับกุม โดยหลังจากตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่า นายอาทิตย์ ได้เข้ามาเช่าห้อง เพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ภายในรีสอร์ดังกล่าวจริง จึงทำการบุกเข้าไปเพื่อจับกุม

...
โดยภายในห้องพัก เมียและลูกของนายอาทิตย์ นั่งอยู่บนเตียงภายในห้อง ส่วน นายอาทิตย์ กำลังอาบน้ำอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเรียกให้ออกมา โดยมีผ้าเช็ดตัวห่มอยู่ผืนเดียว ส่วนโซ่ตรวจที่ล่ามไว้นั้น เบื้องต้นนายอาทิตบ์บอกว่าได้ถอดออกตั้งแต่ตอนหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี แล้ว จากนั้นจึงโทรเรียกให้เมียขี่รถมารับ และมาหลบเช่าห้องพักอยู่ในรีสอร์ตแห่งนี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้คุมตัวนายอาทิตย์ขึ้นรถ นำตัวกลับมาเพื่อเตรียมตัวหาเชื้อโควิด-19 และจะเร่งทำการสอบสวนต่อ ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนเมียและลูกของนายอาทิตย์ทางตำรวจได้แยกตัวเพื่อสอบสวนอีกครั้ง