ตำรวจทองหล่ออนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว สันธนะและพวกรวม 5 คน โดยใช้หลักทรัพย์ รวม 3 แสนบาท เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา รับน้อยใจในการทำงานของ จนท. เพราะเพิ่งทุเลาจากโควิด รอให้พ้นช่วงกักตัวก็ไม่ได้
จากกรณีที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 62 ปี อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมพวก และทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อมอบตัวกรณีถูกพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ออกหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 362/2564 คดีอุ้มรีดเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ข่มขืนใจ
ต่อมาเวลา 11.20 น. ภายหลังการเข้าพบ พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ และสอบปากคำ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ พร้อมพวก รวม 5 คน กว่า 5 ชั่วโมง โดยพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์รวม 3 แสนบาท
นายสันธนะ เปิดเผยว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ และใช้เงินประกันตัวออกมามูลค่า 1 แสนบาท ส่วนลูกน้องใช้เงินประกันตัวคนละ 5 หมื่นบาท ซึ่งทางตำรวจได้อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ยอมรับน้อยใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะขณะนี้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 และหมอให้กักตัวจนถึงวันที่ 6 ส.ค.นี้ คดีนี้เกิดขึ้นมา 4 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือน มี.ค. ควรรอให้ตนหายดีก่อนและจะมาพบพนักงานสอบสวน แต่กลับถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ ออกหมายจับ 7 หมาย คือ ตนเองและผู้ติดตาม ซึ่งได้มามอบตัวแล้ว 5 คน ส่วนอีก 2 คน ติดโควิด 1 คน และอยู่ในช่วงกักตัวอีก 1 คน โดยจะมามอบตัวในภายหลัง
ทั้งนี้ ทั้ง 7 คน ถูกตั้งข้อหา "ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยอ้างอำนาจ อั้งยี่ หรือ ซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพและร่างกาย".
...