นักโทษหนีจากเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ถูกกดดันอย่างหนัก ติดต่อมอบตัวแล้ว 1 ยังเหลืออีก 1 ตำรวจยังกระจายกำลังตามล่าตัวอย่างต่อเนื่อง
กรณีนักโทษชาย 5 คน แหกคุกหนีจากเรือนจำชั่วคราวที่ใช้เป็นที่กักกันนักโทษในการแยกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนส่งเข้าเรือนจำใหญ่ ของเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการเจาะฝ้าเพดานแล้วปีนหนีออกมา ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา และสามารถติดตามจับกุมกลับมาได้แล้ว 3 คน ส่วนอีก 2 คน คือนายสาคร เหมือนทิพย์ อายุ 39 ปี คดียาเสพติด และนายอาทิตย์ กลิ่นขจร อายุ 24 ปี คดียาเสพติด ซึ่งมีโซ่ตรวนติดอยู่ ยังคงหลบหนี โดยทางตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี อยู่ระหว่างกดดันไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าล่าสุดเวลา 12.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2564 นายสาคร เหมือนทิพย์ อายุ 39 ปี นักโทษคดียาเสพติดที่ยังหลบหนี ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยผ่านทางนายชยพล ปั้นปล้อง (สจ.ท็อป) ผู้นำท้องถิ่นใน อ.หนองหญ้าไซ โดยช่วงบ่ายได้มีเจ้าหน้าที่จากเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เดินทางไปรับที่บ้านพักของนายสาคร ใน อ.หนองหญ้าไซ และได้นำตัวนักโทษกลับเข้าเรือนจำทันที เนื่องจากเป็นมาตรการความปลอดภัยในช่วงโควิด-19 จึงต้องนำตัวส่งตรงเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อโควิดและแยกขังต่อ ก่อนจะส่งเข้าเรือนจำใหญ่อีกครั้ง

...
ส่วนนายอาทิตย์ กลิ่นขจร นักโทษอีกรายที่ยังหลบหนีอยู่ ทางตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้กระจายกำลังติดตามตัวอยู่
เมื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำพาตัวนายสาคร กลับมาถึงที่เรือนจำ จ.สุพรรณบุรี นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสมศักดิ์ เขียวอ่อน ผอ.เรือนจำสุพรรณบุรี ได้นำตัวนายสาครเข้าห้อง ได้ให้เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาตรวจให้นายสาคร อย่างเร่งด่วน เมื่อผลออกมาเป็นลบ จากนั้นจึงได้นำตัวมาสอบสวน

จากการสอบถามนายชยพล ปั้นปล้อง (สจ.ท็อป) เปิดเผยว่า ได้คุยเกลี่ยกล่อมเมียของนายสาคร นักโทษที่แหกคุกออกมา จากการที่คุยกับภรรยานายสาครได้บอกว่านายสาครคิดถึงลูกเมีย และกลัวจะติดโควิดในเรือนจำ จึงตัดสินใจหลบหนี ซึ่งก็ได้พูดคุยจนนายสาครยอมมอบตัว.