นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ พร้อมพวก อีก 7 คน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา คดีอุ้มฆ่าเสี่ยโกศล นักธุรกิจอาหารทะเล แล้วนำศพไปอำพราง ทั้งหมดเข้ามอบตัว สภ.ไชยา โดยล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างสอบปากคำ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 64 ที่ สภ.ไชยา นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา พร้อมพวก อีก 7 คน ประกอบด้วย นายคำธร หรือแน็ค เศวตศิลป์ อายุ 32 ปี นายสุรชัย หรือ ตาชัย คงสุข อายุ 39 ปี นายเกรียงไกร หรือเป็ด, เพชร แสงสง่า อายุ 34 ปี นายเจริญ หรือพร คะเชนทอง อายุ 56 ปี นายจิรายุทธ หรือโจ้ เศวตศิลป์ อายุ 24 ปี และ นายทิวากร หรือบี เลื่องสุนทร อายุ 33 ปี
ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ตามประมวลกฎหมายมาตรา 199 284 (4) 334 335 (7) 336 ทวิ 371 83 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนมาตรา 7, 8, 72 72 ทวิ

...

ผู้ต้องหาทั้ง 8 รายได้เข้าพบมอบตัวกับ พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ต่อมา พล.ต.น.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รับผิดชอบงานสอบสวน จะเดินทางมาร่วมสอบสวนปากคำกลุ่มผู้ต้องหาด้วยตนเอง

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค. นางจินดาหรา วศินทรัพย์ อายุ 31 ปี ได้ไลฟ์สดเฟซบุ๊ก ขอความช่วยเหลือนายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี สามีนักธุรกิจรับซื้อสัตว์น้ำอาหารทะเลและเรือประมงลากหอย ได้หายตัวไปขณะไปดื่มสุรากับเพื่อนที่ศาลาข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พบรอยเลือดลากเป็นทางยาวกว่า 60 เมตร และรองเท้าแตะ จึงสงสัยสามีถูกลวงออกไปทำร้ายในคืนวันที่ 2 พ.ค. ซึ่งต่อมาตำรวจสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 44 ปี พร้อมพวก โดยสาเหตุเกิดขึ้นมาจากความขัดแย้ง เกี่ยวกับธุรกิจลากหอย ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายสุรัตน์ และนายโกศล ได้พากันไปเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงได้ถูกกลุ่มนายสุรัตน์ ใช้อาวุธปืนก่อเหตุ ก่อนนำศพไปอำพราง และขณะนี้ยังหาศพไม่พบ.