หน่วยปราบปรามยาเสพติด SITF โชว์ผลงานจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไอซ์ 10 กิโลกรัม ถูกซุกอยู่ในที่นอนที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านนวมินทร์ ด้าน ป.ป.ส.เผยเตรียมถก 3 ประเทศ จับกุมผู้บงการเครือข่ายส่งยานรกข้ามชาติ

กรณีกรมศุลกากรมีการเฝ้าระวังในการติดตามสินค้ากลุ่มเสี่ยงที่จะมีการลักลอบนำยาเสพติดไปนอกราชอาณาจักร มอบหมายให้หน่วยงานในความรับผิดชอบของกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่มีความสุ่มเสี่ยง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่าเมื่อช่วงสายวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF)  ประกอบด้วย ป.ป.ส. บช.ปส. ศุลกากร ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ร่วมกันจับกุม นายกรวิก จิณะบุตร อายุ 27 ปี พร้อมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนัก 10 กก. ซุกซ่อนอยู่ในที่นอนที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ขณะเตรียมจัดส่งออกไปฮ่องกงทางเรือ

...

ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น.วันเดียวกัน ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ได้แก่ น.ส.ณัชรี เพ็งหล่ำ อายุ 28 ปี และนายคริสเตียน ชิบูไอกี เอ็มมานูเอล (MR.Christian Chibuike Emmauel) อายุ 31 ปี สัญชาติไนจีเรีย แฟนหนุ่ม ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดแพ็กยาเสพติด พบที่นอนลักษณะเดียวกันที่ซุกซ่อนยาเสพติด และอุปกรณ์ที่ใช้ในการแพ็ก จากการสอบปากคำผู้ต้องหาไนจีเรีย เบื้องต้นทราบว่ายาเสพติดถูกส่งมาจาก สปป.ลาว  นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวอีกว่า “ตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งขยายผลสืบสวนถึงผู้สั่งการในการลักลอบส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศ โดยในคดีเฮโรอีนน้ำหนัก 314 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในถังสีอะคริลิกเตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าผู้สั่งการ คือ นายเอก หรือ เก่ง อ่อนเอี่ยม อายุ 38 ปี (ซึ่งบุคคลตามหมายจับใน คดีส่งเฮโรอีน 75 กก.ไปไต้หวัน เมื่อวันที่ 20 ส.ค.63 ปัจจุบันได้รับแจ้งว่าหลบหนีไปอาศัยยัง สปป.ลาว) ให้ส่งยาเสพติดไปประเทศออสเตรเลีย

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลทั้งหมดให้ อัครทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติด  ประจำกรุงเวียงจันทน์ เพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดใน สปป.ลาว นอกจากนี้ได้นำข้อมูลของผู้รับปลายทางและข้อมูลเครือข่ายทั้งหมดให้กับตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australia Federal Police – AFP) เพื่อดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส.จะเชิญเจ้าหน้าที่จาก  สปป.ลาว เวียดนาม และออสเตรเลีย ประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO conference ร่วมกันเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าวโดยเร็วที่สุด