"บิ๊กใหม่" นำทีมชุดสืบสวนแถลงจับคนร้ายคดีฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าชาวขอนแก่น พร้อมทั้งเจอรถของกลาง ด้านลูกสาวคนตาย ยืนยัน ครอบครัวไม่ให้อภัยฆาตกรฆ่าชิงทรัพย์แม่ ขอให้รับกรรมที่ก่อขึ้นโดยเร็ว

วันที่ 15 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยถึงการจับกุมผู้ต้องหาในคดี “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ร่วมกันซื้อขายรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผจ 4512 นครปฐม คันที่นางกันนิกา จําปา อายุ 44 ปี ชาวบ้านพระคือ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ขับออกจากบ้านไปซื้อสินค้ามาขาย แต่ถูกคนร้ายอุ้มฆ่าชิงทรัพย์แล้วนำศพไปทิ้งในป่าพื้นที่ อ.บ้านฝาง พบศพคนตายเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น สืบสวน สภ.บ้านฝาง ร่วมกันหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับการตาย รวมถึงเบาะแสเกี่ยวข้องกับการหายไปของทรัพย์สินของผู้ตาย โดยการตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางที่ไปยังจุดที่พบศพ และเส้นทางที่ออกจากตัวเมืองขอนแก่น จนพบหลักฐานยืนยันตัวตนคนที่นำรถของคนตายไป จึงเข้าควบคุมตัวนำตัวมาสอบสวนจนทราบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถคันดังกล่าว โดยผู้ต้องหาได้มอบรถให้เพื่อนไปขายให้กับกลุ่มซื้อขายรถหลุดจำนำ ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว

...

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.3 บก.ป. สืบสวนจนทราบตัวคนที่เกี่ยวข้อง จึงรวบรวมหลักฐานให้พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับคนที่เกี่ยวข้องรวม 6 คน ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” โดย 1 ใน 6 คือ ผู้ต้องสงสัยว่าจะลงมือฆ่าผู้ตายเพื่อชิงทรัพย์ และเอาทรัพย์สินที่เป็นรถยนต์ของคนตายส่งให้เพื่อนนำไปขาย ขณะนี้คนร้ายรายดังกล่าวถูกออกหมายจับ คือ นายประสิทธิ์ จาลา อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.126/2564 ลงวันที่ 14 ก.ค.2564 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” โดยนายประสิทธิ์หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปหาภรรยาเก่าที่จังหวัดตาก และได้กินยาล้างห้องน้ำเพื่อพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ถูกนำตัวส่งที่ รพ. และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

รอง ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า การก่อเหตุของผู้ต้องหาในครั้งนี้เกิดจากที่ผู้ต้องหามีความประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากมีหนี้สินล้นพ้นตัวจากการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย ทําให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ จากนั้นได้จําหน่ายทรัพย์ที่ได้มาไปยังกลุ่มที่มีพฤติกรรมรับซื้อขายจํานํารถยนต์ และอาจนําข้ามไปยังต่างประเทศได้ เพราะในเรื่องของการขายรถกระบะครั้งนี้นั้นมีชายชาวกัมพูชามีส่วนรู้เห็นด้วย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน นางสาวศิริวิภา คำค้อ หรือน้องบ๋อมแบ๋ม อายุ 22 ปี ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย ซึ่งทราบว่าพบตัวแล้ว คือ นายประสิทธิ์ แต่ยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ เพราะทราบว่าพยายามกินยาฆ่าตัวตาย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งนี้โดยส่วนตัวรู้จักกับนายประสิทธิ์ เพราะเป็นเพื่อนสนิทของแม่ ไปมาหาสู่กับแม่ บางครั้งก็นำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาขาย เคยพูดจาแซวกันเล่น

ลูกสาวผู้ตาย กล่าวด้วยว่า เมื่อรู้ว่าแม่ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนตัวไม่เคยคิดและไม่เคยสงสัยว่าจะเป็นนายประสิทธิ์ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่เอาผิดนายประสิทธิ์ได้ ก็พอจะนึกภาพออก เพราะนายประสิทธิ์เป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือย เคยได้ยินเพื่อนๆ ของแม่เล่าให้ฟังว่า นายประสิทธิ์เคยยืมเงินแม่แล้วแม่ก็ให้ จึงคิดว่าถ้านายประสิทธิ์ลงมือฆ่าแม่ได้ น่าจะเกิดจากความอยากได้อยากมี เป็นหนี้สินถึงขั้นจนตรอกหาทางออกไม่ได้ ถึงลงมือฆ่าชิงทรัพย์ เอาทรัพย์สินของแม่ไป เอารถยนต์ไปขาย ขอให้ตำรวจนำตัวนายประสิทธิ์กลับมารับโทษรับกรรมที่ตัวเองก่อขึ้น และขอยืนยันว่าตนและคนในครอบครัวไม่มีวันให้อภัยหรือยกโทษให้เด็ดขาด.

...