จนท.ยังปิดล้อมป่าต้นสาคู อ.สายบุรี หลังไปพบฐานปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายที่ปะทะ จนท.เมื่อช่วงเช้ากลางป่า โดยมีการยิงและปาระเบิดเข้าใส่ตูมสนั่นป่าเป็นระยะ ทั้ง จนท.ยังพยายามกดดันให้ยอมมอบตัว

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ป่าต้นสาคู ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังกลุ่มก่อความไม่สงบหลบหนีจากเหตุปะทะในพื้นที่ ม.3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้เกิดการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ไล่ติดตามอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวนั้นพบว่าเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ใช้เป็นที่พักพิงและหลบซ่อนตัว เพราะอยู่กลางป่าและห่างหมู่บ้าน ขณะที่ชุดการข่าวความมั่นคง ระบุว่า คนร้ายกลุ่มนี้น่าจะมีบุคคลในพื้นที่และกลุ่มแนวร่วมให้การสนับสนุนในการปกปิดแหล่งพักพิงของคนร้าย

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงปฏิบัติการปิดล้อมป่าต้นสาคูต่อเนื่อง หลังจากพบความเคลื่อนไหวและการยิงตอบโต้เป็นระยะ โดย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี และหัวหน้าหน่วยในพื้นที่ยังคงประชุมเพื่อวางแผนเชิงรุกในการปฏิบัติเข้าประชิดตัวคนร้าย แต่เนื่องจากพื้นที่เป็นป่ารกทึก คนร้ายใช้ความชำนาญของพื้นที่พรางตัวทำให้ยากต่อการมองเห็น ทำให้ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้เครื่องมือพิเศษในการจับความร้อนหาตัวพร้อมกับนำเครื่องบินแบบโดรนขึ้นบินทางอากาศ แต่ก็ถูกคนร้ายยิงใส่เป็นระยะ ซึ่งขณะรายงานยังมีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่อง

...

จากนั้นเมื่อเวลา 13.00 น. ขณะที่ชุดปฏิบัติการปิดล้อมอยู่ด้านในป่าพยายามที่จะเข้าประชิดเป้าหมาย ปรากฏว่าถูกคนร้ายยิงใส่อย่างหนัก ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ต้องหลบหาที่กำบัง กระทั่งมีเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งพร้อมเสียงปืน คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธหนักเพื่อต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้ภารกิจการเข้าประชิดต้องล่าถอยออกมาเป็นระยะ เนื่องจากคนร้ายใช้ต้นไม้ใบไม้พรางตัว ซึ่งจากการปะทะครั้งนี้ทราบว่าคนร้ายน่าจะมีประมาณ 3-4 คน พร้อมอาวุธครบมือ ทำให้ พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้มีการปรับแผนในการปฏิบัติอีกครั้ง และยังเน้นย้ำว่าช่วงเวลาในการปิดล้อมให้มีการเจรจาเป็นระยะ เพื่อหวังว่าคนร้ายจะออกมามอบตัว แต่ถ้าหากคนร้ายมีการยิง อาจจะยิงตอบโต้กลับเพื่อเป็นการป้องกันตัว อย่างไรก็ตามการปฏิบัติการครั้งนี้น่าจะยืดเยื้อ

พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า การปิดล้อมครั้งนี้เนื่องจากในชุดจรยุทธออกลาดตระเวนภายในป่าสวนยางพร้อมกับการติดตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีจากเหตุปะทะ ปรากฏว่าได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายนี้ และได้มีการยิงตอบโต้กันร่วม 10 ชม. จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการตอบโต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็ได้นำผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนเข้าไปใกล้ๆ ให้มากที่สุด เพื่อทำการเจรจาพูดคุย โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ใช้ความนุ่มนวลให้มากที่สุด

ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานที่จุดปะทะถือว่าเป็นฐานปฏิบัติการของคนร้าย หรือเป็นฐานหลักที่เมื่อก่อเหตุแล้วก็จะหลบซ่อนตัวที่นี่ หลังจากยึดฐานก็พบอุปกรณ์หลายอย่างในการดำรงชีพ สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้คาดว่าเป็นบุคคลที่มีหมายสำคัญ และเป็นแกนนำคนสำคัญจึงไม่ยอมที่จะออกมามอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เราก็ต้องปลอดภัยก่อน และใช้กำลังเท่าที่จำเป็น และหลีกเลี่ยงความรุนแรงให้มากที่สุด.