"บิ๊กใหม่" ลงพื้นที่เชียงราย ประชุมไขคดี 2 คนร้ายขี่ จยย.ชักปืนยิง ก่อนนำบุกชิงทอง 86 เส้น หนัก 114 บาท มูลค่า 3 ล้าน กลางเมืองเชียงราย ผงะเมื่อเทียบรูปพรรณคนร้ายเหมือนชิงทอง 54 บาท เมื่อ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากกรณีมีเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนบุกเข้าไปร้านทองเยาวราชสินทวี กวาดสร้อยทองคำ 86 เส้น น้ำหนัก 114 บาท มูลค่า 3,049,500 บาท ที่ จ.เชียงราย
ล่าสุด 13.30 น. วันที่ 27 มิ.ย.64 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.เชียงราย พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.เทพสวัสดิ์ สุภาวรรณ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตประสาร รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ มณีจันทร์สุข สว.สส.สภ.เมือง พ.ต.ท.เอกพล ยาสิทธิ์ สวป.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร้านทองเยาวราชสินทวี สาขาย่อยตลาดป่าก่อเงี้ยว เลขที่ 88/4 ม.13 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย อีกครั้งภายหลังจากช่วงเช้าได้เรียก นางพันทิพย์ แจ้แฮด อายุ 47 ปี ผู้จัดการร้านทองเยาวราชสินทวี นางณัฐิภรณ์ วรนาม อายุ 42 ปี และ น.ส.ธิตินันท์ บุญยัง อายุ 19 ปี พนักงานในร้านทองวันเกิดเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติม
จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และคณะ ได้เดินทางที่ สภ.เมือง ร่วมประชุมวางแนวทางการสอบสวนสืบสวน และสรุปเหตุการณ์ตลอดถึงการออกติดตามกล้องวงจรปิด เส้นทางการหลบหนี และพยาน หลักฐานที่เก็บได้ทั้งลายนิ้วมือที่ติดอยู่บนตู้กระจก ดีเอ็นเอของคนร้ายที่ไม่ใส่ถุงมือ 1 คน และที่ห้องพักโรงแรมระเบียงน้ำ ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย ที่คนร้ายเข้าพักและออกไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. โดยไม่กลับมาอีก ก่อนลงมือก่อเหตุในอีกวัน และจากการตรวจสอบบกล้องวงจรปิดในร้านทอง พบคนร้ายได้ขี่รถ จยย.คันก่อเหตุผ่านมาดูลาดเลาเมื่อเวลา 11.27 น. ก่อนย้อนไปก่อเหตุเวลา 14.30 น. ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ภายหลังการประชุมใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
...
ต่อมา พล.ต.อ.สุชาติชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. แถลงว่า ขณะนี้มีพยานหลักฐานมากพอสมควร รู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่ออกหมายจับและอาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะรีบออกหมายจับ ต้องให้รู้ชื่อที่อยู่และพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ให้ได้ก่อน จึงจะขอออกหมายจับ ส่วนพฤติการณ์การก่อเหตุ ลักษณะบุคคลคาดว่าจะเป็นคนในพื้นที่เชียงราย และตรงกับเหตุการณ์ 2 คนร้ายบุกจี้ร้านทองเยาวราชสินทวี สาขาบ้านดู่ อ.เมือง เมื่อเย็นวันที่ 25 ม.ค.64 กวาดสร้อยทองไป 54 บาท โดยชักอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าก่อน 1 นัด จากนั้นเข้าไปในร้านยิงขึ้นเพดานอีก 1 นัด ก่อนจะกวาดสร้อยทองหนีไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ข้างร้านหายไป ก็เป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่นำมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกันอยู่
ส่วนคนร้ายจะเป็นมืออาชีพ หรือสมัครเล่น ยังตอบไม่ได้ แต่มีลักษณะเป็นวัยรุ่นและสวมรองเท้าลักษณะเดียวกับคนร้ายจี้ร้านทองเยาวราชสินทวีบ้านดู่ ส่วนคำถามว่า ทำไมคนร้ายจี้ชิงทองชื่อร้านเดียวกันนั้น ร้านทองเยาวราชสินทวี ใน จ.เชียงราย มีถึง 17 แห่ง และไม่ใช่เจ้าของไม่ใช่คนเดียวกัน ต้องขอฝากถึงเจ้าของผู้ประกอบกิจการร้านทองให้จัดทำติดตั้งกระจกหน้าร้านให้แน่นหนา ติดตั้งประตูกระจกให้สามารถกดล็อกประตูได้เพื่อป้องกันเหตุร้าย ไม่ให้คนร้ายสามารถก่อเหตุได้ง่าย ส่วนจะทำหรือไม่ตำรวจก็ต้องรักษาความปลอดภัยป้องกันทรัพย์สินให้ประชาชนอยู่แล้วเหมือนกัน.