ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ตามตัวได้แล้วชายในคลิปทำร้ายร่างกายพระธุดงค์ ขณะเดินอยู่ริมถนน อ้างนึกว่าพระปลอม ไม่ยอมให้พรเป็นภาษาบาลี บอกแค่ “อย่ากินเหล้า สูบบุหรี่นะ”
จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v plus ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า "นักเลงพอทำร้ายพระ พระท่านก็ไม่ตอบโต้แต่คุณเล่นใส่เอาอย่างนี้มันสมควรหรือคะ จะด้วยสาเหตุใดคุณก็ไม่สมควรทำร้ายใคร ถ้าพระทำผิดก็ควรแจ้งความค่ะ ร้อยเอ็ด เป็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตาผมเลยครับ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามครับ เหตุเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทางไปจตุรพักพรพิมาน สุดท้ายมีน้องเข้าไปช่วยแต่ผมไม่ได้ถ่ายไว้ครับ ที่ผมถ่ายเอาไว้เป็นหลักฐานครับ" ซึ่งหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปออกไปต่างก็มีผู้คนในโลกโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น ในความไม่เหมาะสมของพฤติกรรมของชายวัยรุ่นคนดังกล่าว ที่ลงมือทำร้ายร่างกายพระ"
...
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 พ.ต.ท.สุจต ศรีศิริ รอง.ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.ไพรรัตน์ บุปผา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ต.นัฐพงษ์ นาอุดม สว.สส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมด้วยชุดสืบสวนควบคุมตัว นายกฤษณ์ ศิริมงกุฏ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ชายที่ปรากฏในคลิปทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ริมถนน โดยชุดสืบสวนได้รวบรวมหลักฐานและสอบถามพยาน จนสามารถติดตามตัวชายคนดังกล่าวได้สำเร็จ

สอบสวนนายกฤษณ์ ผู้ก่อเหตุ ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนจะไปทำงาน แต่ไปพบพระธุดงค์นั่งอยู่ ด้วยความที่เป็นคนที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้ไปซื้อน้ำและนมกล่องในร้านสะดวกซื้อไปถวายพร้อมเงิน 100 บาท แต่พระรูปดังกล่าวบอกไม่ชอบดื่มนม ขอเปลี่ยนเป็นกาแฟได้มั้ย ตนจึงไปเปลี่ยนเป็นกาแฟมาถวาย 1 กระป๋อง จากนั้นก็ถามพระว่า “ไม่ให้พรเหรอ” พระก็บอกว่า “อย่ากินเหล้า สูบบุหรี่นะ”
ตนก็สงสัยว่าพระทำไมให้พรอย่างนี้ ไม่ท่องเป็นภาษาบาลี จะเป็นพระจริงหรือพระปลอม ประกอบกับการแต่งกายก็ไม่สำรวม จึงขอดูหนังสือสุทธิซึ่งเป็นหลักฐานในการบวช ก็พบว่าหมดอายุตั้งแต่ปี 2553 ตนจึงไปหยิบเอาไม้เท้าจากพระมา พระก็บอกว่าเอาไม้เท้าคืนมา ตนก็ยังไม่ให้ พระรูปนั้นก็หยิบเอากุญแจรถจักรยานยนต์ของตนไปพร้อมบอกว่า “ถ้ามึงไม่ให้ไม้เท้ากู ก็จะไม่คืนกุญแจรถให้” หลังจากนั้นพระรูปดังกล่าวเดินจากไป ตนก็ยังติดค้างคาใจอยู่ว่าเป็นพระจริงหรือพระปลอม จึงตามไปเพื่อทวงเอากุญแจรถคืนมาและขอเงิน 100 บาทที่ถวายให้ไปคืนมาด้วย แล้วเกิดมีปากเสียงกันขึ้น ตนจึงชกต่อยและเตะไปหลายครั้ง แล้วก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปทำงาน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตัวมา ซึ่งตนยอมรับผิดทุกอย่างที่ได้กระทำลงไป

ในเบื้องต้นจากการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายไม่พบว่ามีสารยาเสพติดแต่อย่างใด ส่วนในเรื่องคดีคงต้องรอให้พระรูปดังกล่าวมาที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อจะสอบถามว่าต้องการจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป