จับแล้ว ทีมฆ่าโหดลุงเลี้ยงวัว-จอบทุบคาบ้าน พบคนบงการคือเมีย คาดสาเหตุเกิดจากปัญหาครอบครัว-หนี้สิน-ผู้ตายเจ้าชู้ ตำรวจเผย รวบแล้ว 3 ยังหนีอีก 1 เร่งล่าตัว
จากกรณีที่ นายธีทัศ สาระวงษ์ อายุ 61 ปี ถูกคนร้ายใช้จอบตีใบหน้า เสียชีวิตคาบ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 5 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักผู้ตาย เมื่อคืนวันที่ 8 พ.ค.64 ตามที่มีการเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มิ.ย.64 ที่กองกำกับการสืบสวนจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง ผบก.ก.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทาบุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ร่วมกันแถลงว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี กก.สส.ภ.จว.สระบุรี และ บก.สส.ภ.1 จนทราบว่า นางวาสนา สาระวงษ์ ซึ่งเป็นภรรยาผู้เสียชีวิต เป็นผู้ติดต่อว่าจ้างให้น้องชายตัวเอง คือ นายกล่องเกียรติ ภูเลาสิงห์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มาก่อเหตุ จากนั้น นายกล่องเกียรติ ได้ติดต่อกับ นายพิชิต พุฒจันทร์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 12 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และ นายประสิทธิ์ พุฒจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 241 หมู่ที่ 12 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ร่วมกันเดินทางมาก่อเหตุดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดสระบุรี ออกหมายจับนางวาสนากับพวกรวม 4 คน จนสามารถติดตามจับกุมตัว นางวาสนากับพวกได้ 2 คน พร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน นายประสิทธิ์ 1 ในผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ยังหลบหนี อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือฆ่าผู้ตายนั้น เกิดจากปัญหาภายในครอบครัวและหนี้สิน ที่ผู้ตายมักดุด่านางวาสนา และความเจ้าชู้ของผู้ตาย ซึ่งช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งฝากขังพลัดแรก ที่เรือนจำจังหวัดต่อไป
...
ด้าน พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก. สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่า สำหรับแรงจูงใจที่ทำให้นางวาสนา สั่งให้น้องชายตัวเองไปทำร้ายสามีนั้น เพราะมีปากเสียงเรื่องชู้สาวที่จับได้หลายครั้ง ซึ่งผู้ตายแอบไปมีหญิงอื่น กลัวว่าจะนำทรัพย์สินที่มีอยู่ไปให้หญิงอื่น โดยผู้ตายเคยสัญญากับภรรยาไว้แล้วว่า จะเลิกการกระทำดังกล่าว อีกทั้งยังทะเลาะกันบ่อยครั้ง และถูกผู้ตายทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด
พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าวต่อว่า นางวาสนาบอกกับเจ้าที่ตำรวจว่า ได้สั่งให้น้องชายแค่ทำร้ายร่างกายเพื่อสั่งสอนเท่านั้น แต่น้องชายทำร้ายจนถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ นางวาสนา ยังอ้างว่าไม่ได้จ้าง เนื่องจากน้องชายก็โกธรแค้นผู้ตายอยู่แล้วเช่นกัน ที่ทำกับพี่สาวตัวเอง และเป็นการชดใช้บุญคุณที่พี่สาวได้เคยช่วยเหลือเรื่องเงินมาโดยตลอด ส่วนคนที่ลงมือฆ่านั้น ผู้ต้องหาได้ซัดว่า นายประสิทธิ์ เป็นคนลงมือ แต่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนการสืบสวนสู่การนำจับนั้น สืบเนื่องจากรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีแดง ทะเบียน ตฉ 8711 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์ของ นายพิชิต หนึ่งในผู้ต้องหา ได้ขับผ่านกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับช่วงเกิดเหตุพอดี เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยจากทะเบียนรถยนต์ จึงรู้ว่าใครเป็นผู้ครอบครองและติดตามตัวมาสอบสวน.