พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เผยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อุเทนถวายมีมติไล่ออกรุ่นพี่โหด 1 ราย อีก 11 ให้พักการเรียน 2 ภาคการศึกษา ยังไร้วี่แววเข้าพบตำรวจ

จากกรณีที่ นางมนัสนันท์ อายุ 57 ปี ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มารดาของนายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 2 คณะวิศวกรรมโยธา รุ่น 89 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อุเทนถวาย ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมหลังลูกชายถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายจนอาการสาหัสถูกหามส่ง รพ. นอนรักษาตัวอยู่ 8 วันแล้วเสียชีวิต เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า มีนักศึกษาเข้าร่วมทั้งชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 ทั้งหมด 47 คน เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ทั้งหมด 12 คน นักศึกษาชั้นปี 1 ทั้งหมด 35 คน ทางมหาวิทยาลัยดังกล่าวได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นการจัดกิจกรรมดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยไม่ทราบว่ามีการจัดกิจกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด แต่การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดกับคำสั่งของกรุงเทพมหานคร เรื่องเกี่ยวกับการควบคุมโรค และขัดคำสั่งมหาวิทยาลัยไม่มีการให้ทำกิจกรรม

ส่วนผลการพิจารณาของทางมหาวิทยาลัยทราบว่า ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 12 ราย มีมติไล่ออกนักศึกษา 1 ราย อีก 11 ราย มีคำสั่งให้พักการเรียน 2 ภาคการศึกษา เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ทำการสอบปากคำไปทั้งหมด 14 ราย มีทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่รปภ. นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม เบื้องต้นมีการดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รุ่นพี่ปี 2 ขึ้นปี 3 ทั้งหมด 12 คน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว

...

ส่วนข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่าดำเนินคดีกับใครบ้าง อย่างไรก็ตาม ยังมีการทำร้ายร่างกายนักศึกษาชั้นปีที่ 2 อีก 1 ราย นอกจากนายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม อายุ 22 ปี ผู้ตาย ส่วนกรณีของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับความเห็นของทางแพทย์ว่าสาเหตุจากการตายเกิดจากสาเหตุใด ถ้ามีพยานหลักฐานพบว่าบุคคลใดเป็นผู้ก่อเหตุก็จะดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนกรณีที่เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันนี้นั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ออกหมายเรียกไปทั้งหมด 40 คน จะเข้าพบพนักงานสอบในวันนี้อีก 26 คน ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ต่อไป

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปี 2 ขึ้น ปี 3 ทั้งหมด 12 ราย ถูกให้พักการเรียนทั้งหมด 11 ราย และมี 1 ราย ที่ถูกไล่ออก ทั้งนี้ ทั้งหมด 12 ราย ถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค

วันเดียวกัน ที่ สน.ปทุมวัน พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง รองผบก.น.6 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ร่วมกันประชุมความคืบหน้าของคดีนี้เพื่อวางแนวทางการสอบสวนคดี โดยมีตัวแทนของคณะสอบสวนของมหาวิทยาลัยฯ นำศึกษารุ่นน้อง 1 คนในฐานะพยานมาพบพนักงานสอบสวน โดยซึ่งตัวแทนและรุ่นน้องปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน เกรงว่าหากเปิดเผยรานละเอียดใดๆ เกรงว่าจะได้รับอันตราย

นายมนู จิตรสำเริง คณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจกรรมพิเศษมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ในฐานะประธานสอบสวนของมหาวิทยาลัยฯ เปิดเผยทางโทรศัพท์ ว่า วันนี้ตนได้มอบหมายให้ตัวแทนนำนักศึกษารุ่นเดียวกับน้องปลื้ม 1 คน ในฐานะพยาน มาพบพนักงานสอบสวน ส่วนรุ่นพี่และรุ่นน้องที่เกี่ยวข้องในคดีที่เหลือ อยู่ระหว่างการประสานเข้าให้ปากคำแต่ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้

พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำนักศึกษารุ่นน้องซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์อยู่ในฐานะพยาน ซึ่งจะมีการสอบปากคำในหลายประเด็น ทั้งเรื่องสถานที่-เวลาที่เกิดเหตุ กิจกรรมที่เกิดขึ้น รวมถึง การส่งตัวนายวีรพัฒน์ หรือน้องปลื้ม ไปโรงพยาบาลหัวเฉียวก่อนจะส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา กระทั่งเสียชีวิต

พ.ต.อ.พันษา กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนได้ประสานข้อมูลจากแพทย์โรงพยาบาลหัวเฉียว และแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา มาให้ข้อมูลเนื่องจากพนักงานสอบสวนพบว่า ผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ ของนายวีรพัฒน์ ลงไว้ว่าลิ่มเลือดจากน่องไปอุดตันขั้วปอด เป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องสอบปากคำแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาล ว่าขณะรับตัวมารักษาก่อนจะเสียชีวิต มีอาการเป็นอย่างไร อีกทั้ง ต้องสอบปากคำครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า นายวีรพัฒน์ มีโรคประจำตัวใดบ้างหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้สำนวนคดีมีความรัดกุมมากขึ้น

พ.ต.อ.พันษา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องทางคดีได้ออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องและอยู่ในเหตุการณ์ไปแล้ว รวมกว่า 60 หมายเรียก แบ่งเป็นรุ่นพี่ 12 คน รุ่นน้อง 35 คน ที่เหลือเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์และพยานแวดล้อม ซึ่งได้มีการสอบปากคำไปแล้ว 16 ปาก ประกอบด้วย อาจารย์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บุคคลที่เข้า-ออกมหาวิทยาลัยในวันเกิดเหตุ และช่างก่อสร้างในมหาวิทยาลัย ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่มีรุ่นพี่เข้าให้ปากคำแต่อย่างใด การสอบปากคำตอนนี้มีประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งตำรวจไม่จำเป็นต้องสอบปากคำให้ครบทุกปากก็สามารถดำเนินการแจ้งข้อหาได้

...

เบื้องต้นตั้งไว้ 2 ข้อหาได้แก่ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน การชุมนุม และทำกิจกรรม ฉบับที่ 3