ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี คุมตัวหนุ่มวัย 29 ที่ก่อเหตุฆ่าโหดลุงแท้ตายแล้วโบกปูนปิดอำพราง สารภาพโมโหลุงที่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างทวงถามก็บ่ายเบี่ยง ก่อนคุมตัวชี้จุดทำแผน รอส่งของศาลเพื่อฝากขังพรุ่งนี้
กรณีเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วานนี้ (7 มิ.ย.64) มีพลเมืองดีแจ้ง สภ.เมืองสระบุรีว่า พบกองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายรูปคน และมีกลิ่นเน่าเหม็น อยู่ในห้องนอนภายในบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ที่เกิดเหตุ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกับ เจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระบุรี และแพทย์เวรโรงพยาบาลสระบุรี ได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบกองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายคน ภายในมีศพผู้เสียชีวิต เพศชาย ลักษณะเน่าเปื่อย ทราบชื่อ คือ นายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า อายุ 55 ปี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ได้ออกสืบสวนติดตามทันที และได้นำตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาชักถามปากคำสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้คือ นายอานุภาพ กัญญาคำ อายุ 29 ปี หลานของผู้ตาย เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ติดตามตัว นายอานุภาพมาสอบสวน และพบพยานหลักฐาน ที่ใช้ในการก่อเหตุและทรัพย์ว่ามาจากการกระทำความผิด จึงได้ทำการจับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยลอบฝัง ช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ของผู้อื่น" และแจ้งสิทธิตามกฎหมาย
...
พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.ไม้ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 ท่อน, 2.ถุงปูนซีเมนต์ จำนวน 2 ถุง, 3.โทรทัศน์ จำนวน 1 เครื่อง, 4.พัดลมตั้งโต๊ะ จำนวน 1 ตัว, 5.ตู้เย็นจำนวน 1 เครื่อง, 6.สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่ม, 7.สร้อยคอทองคำขนาด 1 บาท (อยู่ระหว่างติดตาม) และ 8.รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า (อยู่ระหว่างติดตาม) ทรัพย์สินรายการที่ 3-8 เป็นทรัพย์สินของผู้ตาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 มิ.ย.64 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหา นายอานุภาพ กัญญาคำ เป็นหลานของนายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า ผู้ตายที่มีฐานะเป็นลุง ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อประมาณ เดือน พฤศจิกายน 2563 นายอานุภาพฯ กับ นายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ได้ร่วมกันทำงานรับเหมาก่อสร้าง แล้วเสร็จประมาณ เดือนมกราคม 2564 ต่อมาเมื่อประมาณ เดือนมีนาคม 2564 นายอานุภาพฯ ได้ทวงถามเงินค่าจ้างส่วนที่ตนเองจะได้รับ กับนายไพโรจน์ฯ เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท 3 ครั้ง แต่ผู้ตายก็บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินส่วนนี้ ต่อมาเดือนเมษายน 2564 นายอานุภาพ ได้ทวงถามค่าจ้าง กับนายไพโรจน์ อีก 4 ครั้ง แต่ผู้ตายก็บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินส่วนนี้กับนายอานุภาพอีกจึงลงมือฆ่า
จากนั้นได้ควบคุมตัวนายอานุภาพ ผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ เริ่มที่ ผู้ต้องหาเดินออกจากบ้านพักที่อยู่ติดกัน หยิบท่อนไม้ติดมือมา เดินตรงไปเปิดประตูบ้าน-เปิดประตูห้องนอน พบนายไพโรจน์ นั่งอยู่ จึงตรงเข้าใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีจนถึงแก่ความตาย และพาไปที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ผู้ต้องหาไปซื้อปูนซีเมนต์ ก่อนคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะทำแผนผู้ต้องหามีสีหน้าซึมเศร้าไม่ยอมตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว
ต่อมาจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินไปยังร้านขายวัสดุภัณฑ์ ชื่อร้านตั้งเจริญกิจ ค้าวัสดุ ตั้งอยู่ริมถนนบายพาสพระฉาย หมู่ที่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายอาร์ม ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากนั้นได้นำตัวกลับไปยัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อทำการสอบสวนต่อ ใช้เวลาเวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ประมาณ 1 ชั่วโมง
นางวัลยา วรคณิตาจารย์ เจ้าของร้านวัสดุภัณฑ์ ที่ได้ขายปูนให้กับนายอาร์ม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 เวลา 12.00 น. ขับรถ จยย. มาคนเดียว มาขอซื้อปูนซุปเปอร์ จำนวน 2 ถุง ถุงละ 40 กิโลกรัมในราคาถุงละ 75 บาท รวมเป็นเงิน 150 บาท นายอาร์มผู้ต้องหาคนนี้เป็นลูกค้าประจำ เนื่องจากทำรับเหมาต่อเติมมาซื้อของบ่อย ตนเองก็ไม่เชื่อว่านายอาร์ม จะเป็นคนฆ่านายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า ถึงแก่ความตาย
...
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว ผู้ต้องหา นายอานุภาพ ไปศาลจังหวัดสระบุรีเพื่อขอฝากขังต่อ.