ตร.กาญจนบุรีจับหนุ่มบุกอู่ซ่อมรถแล้วดวลปืนหน้าอู่ช่างอู๊ดจนตาย 2 เจ็บ 2 โดยผู้ต้องหาให้การไม่มีเจตนาฆ่า แต่ยิงสวนไปไม่รู้โดนหรือไม่ ต้องรอผลวิถีกระสุนจาก พฐ. ยืนยัน โดย จนท. แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย
ความคืบหน้าคดีดวลปืนหน้าอู่ช่างอู๊ด มีคนตาย 2 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย ที่กาญจนบุรี ล่าสุด เวลา 11.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 64 พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เรียกประชุมชุดสืบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวน คดีใช้อาวุธปืนยิงกันตายที่ อู่ช่างอู๊ด เมื่อคืนนี้ ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองกาญจนบุรี
พ.ต.อ.สมเกียรติ กล่าวถึงคดีนี้ว่า เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันบริเวณหน้าอู่ช่างอู๊ด บ้านเลขที่ 147 ถนนพัฒนาการ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พนักงานสอบสวนพร้อม ตร.สืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุพบศพ นายอิทธิพงษ์ โปร่งสันเทียะ อายุ 35 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.หนองกร่าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณศีรษะด้านขวาทะลุศีรษะด้านซ้าย จำนวน 1 นัด มือกำอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 เสียชีวิตบริเวณเบาะที่นั่งฝั่งคนขับ ภายในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ แคป สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บว 924 กาญจนบุรี จอดริมถนนหน้าอู่ และพบศพ นายวิรัตน์ สืบดา อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณกลางหน้าอกด้านหน้าทะลุหลังจำนวน 1 นัด นอนเสียชีวิตบริเวณหน้าอู่ดังกล่าว
...
นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ 1.นายธนาธร สืบดา อายุ 20 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี 2.นายศรศิษย์ โสภณรวิชญ์ อายุ 22 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ทั้ง 2 ถูกนำส่ง รพ.พหลพลพยุหเสนา สอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายพายุ สืบบุก อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 21 หมู่ 9 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พร้อมอาวุธปืนพกสั้น แม็กกาซีน ยี่ห้อลาม่าขนาด 7.65 จำนวน 1 กระบอก ไปสอบสวน ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ส่วนพฤติการณ์เหตุครั้งนี้ นายอิทธิพงษ์ ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาถามหา นางสำราญ สืบดา ซึ่งเป็นภรรยาของนายอิทธิพงษ์ฯ ที่ได้เลิกรากันไปหลายเดือนก่อน กับนายวิรัตน์ฯ ซึ่งเป็นพี่ชายของนางสำราญฯ ที่เปิดเป็นอู่ซ่อมรถ แต่ได้เกิดปากเสียงกัน กับนายวินัตน์ฯ และคนภายในอู่ซ่อมรถ นายอิทธิพงษ์ได้ใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ยิงนายวิรัตน์เสียชีวิต ส่วนนายธนาธรกับนายศรศิษศ์ได้บาดเจ็บ และนายพายุ ได้ใช้อาวุธปืน ขนาด 7.65 ยิงสวนออกไป ส่วนนายอิทธิพงษ์ถูกยิงบริเวณศีรษะเสียชีวิต แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ายิงตนเองหรือถูกอาวุธปืนของนายพายุ และทิศทางกระสุนมาจากในอู่ โดยมีรอยกระสุนที่มือจับประตูด้านซ้าย โดยต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายพายุได้ในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืนที่คาดว่าใช้ก่อเหตุ นำตัวมาสอบสวนนายพายุให้การเบื้องต้นรับว่า ยิงปืนแต่ไม่รู้ว่าโดนหรือไม่ แต่ปฏิเสธว่ามีเจตนาฆ่า จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและ พ.ร.บ.อาวุธปืน ครอบครอง พกพาปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุนำส่งตรวจพิสูจน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่เกิดเหตุที่อู่ช่างอู๊ด อู่ยังเปิดทำงานปกติ โดยปิดประตูด้านหน้า โดย นานอู๊ด สิทธิสร อายุ 49 ปี เจ้าของอู่เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นสั้นๆ ว่า ตอนเกิดเหตุไม่อยู่ ไปธุระข้างนอก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่รู้ ส่วนศพพี่เมียจะไปตั้งที่บ้านเกิดเขา ที่ บ้านตะลุงใต้ หมู่ 6 ตำบลดอนแฉลบ อำเภอห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
...
ส่วนลูกน้องในอู่เล่าให้ฟังว่า นายอิทธิพัทธ์หรือนายเล็ก ก่อนเกิดเหตุ มาที่อู่บ่อยมาก มาพูดคุยกับพี่วิรัตน์ ถามหาเมีย แต่ทางพี่วิรัตน์เขาก็ไม่ทราบว่าน้องสาวเขาไปอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าหลบไปทำงานที่กรุงเทพ นายเล็กเมามากมาตามตลอด จนล่าสุดไม่นานก็มาขู่ว่า ถ้าไม่บอกว่าเมียอยู่ไหนจะมาจะมาราวีตลอดไป จนทางอู่ไปแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้เช่นกัน.