ตร.อ่าวนางเผย ศาลกระบี่ออกหมายจับอีก 1 "สุริยันต์ เริงสมุทร" ญาติบังฟิต โยงร่วมทีมสังหารโหด "เสี่ยสุชาติ" ขณะที่ เจ้าตัวก็หนีหายไปจากบ้านที่ ต.หนองทะเล แล้ว ด้านญาติผู้ตายแจ้งจะเก็บศพรอไขคดี
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พ.ค.64 พ.ต.ท.วรยุทธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง นำสำนวนการสอบสวน คดีฆ่านายสุชาติ ขาวล้วน พร้อมบันทึกการให้ปากคำของพยาน เดินทางไปยังศาล จ.กระบี่ เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มในคดีนี้ หลังก่อนนี้ศาล ออกหมายจับมาแล้ว 3 ราย โดยผู้ร่วมทีมสังหารรายล่าสุดคือ นายสุริยันต์ เริงสมุทร หรือบังหนี อายุ 30 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ญาติผู้น้องของนายสุริยา หรือบังฟิต ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและมิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการหรือเหตุแห่งการตาย
ซึ่งต่อมาศาล จ.กระบี่ อนุมัติหมายจับเพิ่มแล้ว โดยก่อนนี้นายสุวิทย์ เริงสมุทร หนึ่งในผู้ต้องหา ให้การกับตำรวจว่า นายสุริยันต์ ร่วมกับทีมสังหารอยู่ในที่เกิดเหตุวันที่บังฟิต ลงมือฆ่าและฝังศพนายสุชาติ ภายในสวนยางหมู่ 1 ต.หนองทะเล ทางพนักงานสอบสวน จึงนำพยานมาสอบเพิ่มอีกหลายปาก เพื่อยืนยันในคำให้การ จนนำไปสู่การออกหมายจับได้ดังกล่าว โดยล่าสุดตัวนายสุริยันต์ เองก็หนีหายไปจากบ้านในพื้นที่ ต.หนองทะเล แล้วเช่นกัน

...
ขณะที่ บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 402 หมู่ 5 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 51 ปี ที่ถูกฆ่าฝังดินในพื้นที่ หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ โดยศพถูกพบในสวนยางพาราหมู่ 1 ต.หนองทะเล ตำรวจทราบกลุ่มก่อเหตุนำไปสู่การออกหมายจับแล้ว 3 ราย มอบตัวแล้ว 1 ราย โดยที่งานบำเพ็ญกุศลศพ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประกอบพิธี หลังตั้งศพสวยพระอภิธรรมมาแล้ว 3 คืน น.ส.อารักษ์ ทับไทร ลูกสาวผู้ตาย พร้อมด้วยญาติ ๆ นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะประสานให้ จนท.กู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุขกระบี่ มารับศพของนายสุชาติ ไปเก็บรักษาไว้ที่มูลนิธิ ซึ่งก่อนนี้ทางญาติ หารือกันแล้วว่าจะเก็บศพของนายสุชาติ ไว้ก่อน จนกว่าตำรวจจะดำเนินการเสร็จสิ้นในกระบวนการนิติเวช และสามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้

น.ส.อารักษ์ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ แม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังเชื่อมั่นใจการทำงานของตำรวจ ยังเชื่อว่าตำรวจจะสามารถติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าพ่อของตนได้ ส่วนคนร้ายก่อนนี้ที่เข้ามอบตัว และบอกว่าตำรวจซ้อมให้รับสารภาพนั้น ตนไม่เชื่อว่าคนร้ายจะถูกตำรวจทำร้าย เพราะเชื่อว่าตำรวจคงมีพยานหลักฐานเพียงพอในการจับกุมตัวดำเนินคดี ซึ่งตนและญาติ ๆ จะติดตามความคืบหน้าของคดีนี้อย่างใกล้ชิด หากสามารถคลี่คลายคดีได้แล้วจึงจะนำศพของพ่อมาทำพิธีเผาตามประเพณี.