ศาลจังหวัดกระบี่ออกหมายจับ "บังฟิต" พร้อมพี่ชาย และญาติผู้น้อง รวม 3 คน ในคดีฆาตกรรมอำพรางนายสุชาติ ขาวล้วน หรือเสี่ยสุชาติ ด้าน "บิ๊กใหม่-สุชาติ ธีระสวัสดิ์" รอง ผบ.ตร.ลุยเอง ตรวจจุดเกิดเหตุ คาดยังมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.พร้อมทีมสืบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 53 ปี ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่ เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุในพื้นที่สวนปาล์ม หมู่ 1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ โดยเข้าไปดูจุดที่ทีมสังหารโหด ขุดหลุมเผาและฝังรถยนต์เก๋งของนายสุชาติ ห่างจากบ้านของนายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ประมาณ 200 เมตร
โดย รอง ผบ.ตร.กำชับให้ชุดสืบสวนเก็บพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด ทั้งร่องรอยการเข้ามาขุดหลุม รวมถึงวิธีการนำรถลงไปในหลุม การฝังกลบ เพื่อหากลุ่มที่ร่วมลงมือก่อเหตุ โดยคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4-5 คน จากนั้นเดินทางไปยัง สภ.อ่าวนาง เพื่อประชุมร่วมกับทีมสืบสวนจาก กก.5 บก.ป. ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภูธร จ.กระบี่ ชุดสืบสวน สภ.อ่าวนาง และชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.อ่าวนาง โดยใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ จากนั้นแถลงต่อผู้สื่อข่าว
...
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก และตำรวจมีพยานหลักฐานมากพอ ที่จะรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว โดยจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหากลุ่มแรก 1-2 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการ ที่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าอยู่ระดับใดและมีหน้าที่อะไร ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องจะมีมากถึง 7 คน ตามที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับแจ้งจากพลเมืองดีหรือไม่ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ตำรวจรับฟังไว้เป็นข้อมูล แต่ต้องทำการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีการวางแผนกันมาเป็นอย่างดี ส่วนประเด็นการก่อเหตุ เบื้องต้นเชื่อว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินที่ทั้ง 2 ฝ่าย ยืมเงินกันจนเป็นหนี้ แต่ก็ต้องทำการสืบสวนต่อไป ว่าเงินจำนวนดังกล่าว เชื่อมโยงหรือได้มาจากการทำธุรกิจใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติดหรือที่ดิน
สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ ได้มีการใช้ปืนยิงนายสุชาติ ก่อนนำศพไปฝังดิน เพราะพบบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ และชายโครง อีกทั้งยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ต้องนำไปตรวจสอบว่าเป็นปลอกกระสุนของปืนที่คนร้ายใช้ยิงผู้เสียชีวิตหรือไม่ ส่วนรถยนต์ที่ถูกฝัง พนักงานสอบสวนก็ยืนยันแล้วว่า เป็นของผู้เสียชีวิตจริง แต่ต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ทางตำรวจได้ยึดรถ และสอบปากคำพยานบางส่วนจนทราบว่า ผู้ต้องหามีการขุดหลุมจริง แต่ยังไม่มีใครเห็นว่า ใครเป็นผู้ขับรถลงไป หรือเคลื่อนย้ายรถลงไปด้วยวิธีใด ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ลูกๆ และญาติของนายสุชาติ นิมนต์พระสมุห์ภักดี ถาวโร พระประจำวัดแก้วโกรวาราม มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของนายสุชาติ ยังจุดเกิดเหตุที่พบเป็นจุดฝังศพ บริเวณสวนยางพาราหมู่ 1 ต.หนองทะเล ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ ทำพิธีอยู่ประมาณ 20 นาที
น.ส.นฤภร ขาวล้วน ลูกสาว เผยว่า ช่วงทำพิธี ตนก็อธิษฐานให้เจ้าที่เจ้าทาง ช่วยเปิดทางให้ดวงวิญญาณของพ่อได้กลับบ้าน ในส่วนของคดีตนเองไม่ได้สนใจมาก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะตนต้องการเพียงร่างพ่อกลับบ้านเท่านั้น ส่วนคนทำผิดต้องถูกตำรวจตามจับตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม
ทั้งนี้ชุดสืบสวน ประมวลเหตุการณ์ที่เกิด คาดว่าในวันเกิดเหตุ นายสุริยา หรือบังฟิต น่าจะนัดหมายให้นายสุชาติ เดินทางไปพบที่บ้าน โดยหลอกว่าจะให้เข้าไปเอาเงินที่ค้างไว้ โดยจะจ่ายให้เป็นเงิน 50,000 บาท ต่อมานายสุชาติ เดินทางออกจากบ้านใน อ.ลำทับ เมื่อเวลา 08.00 น. มาหานายบุญเลิศ หรือช่างใหม่ พรหมชัยศรี ที่อู่ซ่อมรถในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ทับปริก เพื่อจะชวนช่างใหม่ ให้เดินทางไปบ้านบังฟิต เป็นเพื่อน แต่ช่างใหม่ ไม่อยู่ที่อู่ทำให้นายสุชาติ ตัดสินใจเดินทางไปเพียงลำพัง โดยช่วงเวลา 11.00 น. โทรศัพท์กลับไปหาภรรยาที่บ้าน 1 ครั้ง ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพรถของนายสุชาติ ขณะเดินทางไปเส้นทางถนนกระบี่-เขาทอง มุ่งหน้าไปที่บ้านของบังฟิต ในพื้นที่หมู่ 1 ต.หนองทะเล แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเข้าไปพบกับใครบ้าง
...
กระทั่งช่วงบ่ายวันเดียวกัน กล้องจับภาพรถของนายสุชาติ ขับออกมาจากทางเข้าบ้านบังฟิต และกลับเข้าไปอีกครั้งในช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยระหว่างนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. โทรศัพท์กลับไปหาญาติผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ญาติไม่ได้รับสาย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดอีกครั้ง ก็ไม่พบรถของนายสุชาติ กลับออกมาจากบ้านของบังฟิต อีกเลย คาดว่าน่าจะถูกจับตัวไว้ ก่อนจะถูกฆ่าฝังดิน และนำรถไปขุดหลุมเผาทำลาย ก่อนฝังดิน โดยตำรวจได้พยานปากสำคัญเป็นคนขับรถแบคโฮ ให้การว่า บังฟิต ว่าจ้างเป็นเงิน 2,000 บาท ให้ไปขุดหลุมในสวนปาล์ม ซึ่งตำรวจจะสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ว่ามีใครร่วมรู้เห็นอีกหรือไม่
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สภ.อ่าวนาง พนักงานสอบสวน นำสำนวนการสอบสวน ไปขออนุมัติหมายจับจากศาล จ.กระบี่ เพื่อขอหมายจับผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุ 3 ราย ประกอบด้วย นายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี นายสุรชัย หรือบังกิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี พี่ชายบังฟิต และนายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 25 ปี ญาติผู้น้องของบังฟิต โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ, ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุอันควร และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์ โดยศาลอนุมัติหมายจับทั้ง 3 รายแล้ว
ในส่วนของประวัติผู้เสียชีวิต คือนายสุชาติ ขาวล้วน เคยต้องโทษในคดีครอบครองเฮโรอีน น้ำหนัก 400 กรัม เมื่อปี 2543 ถูกจับได้ที่ จ.ลำปาง ศาลตัดสินจำคุก 50 ปี ถูกส่งจำคุกที่เรือนจำเขาบิน แต่ต่อมาประพฤติตัวดี จึงได้รับการลดโทษ และถูกส่งตัวมาคุมขังที่เรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2562 รวมติดคุก 19 ปี 2 เดือน 20 วัน ซึ่งระหว่างจำคุกอยู่ที่เรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ไปรู้จักกับนายสุริยา หรือบังฟิต ซึ่งถูกจับกุมในคดี ทำร้ายร่างกายในพื้นที่ จ.กระบี่ และครอบครองยาเสพติดเมื่อปี 2551 ถูกส่งตัวไปขังที่เรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช โดยหลังจากพ้นโทษออกมาทั้งคู่มีการติดต่อกันมาโดยตลอด จนเกิดการยืมเงินกลายเป็นปมสังหารครั้งนี้
...
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า น.ส.นฤภร ขาวล้วน ลูกสาวของนายสุชาติ ซึ่งได้รับแชตข้อความปริศนา บอกว่าพ่อของเธอถูกฆ่าฝังดิน เล่าว่า ครั้งแรกที่ตนได้รับแชตจากบุคคลปริศนา บุคคลดังกล่าวทักแชตเฟซบุ๊กเข้ามาหาตนโดยตรง บอกว่าเป็นผู้หวังดี จะแจ้งข่าวเรื่องคนหาย จึงได้สอบถามไปว่าเขารู้เหรอ เขาก็บอกให้ตนตั้งสติ และให้หาตำรวจที่ไว้ใจได้เพื่อนำข้อมูลให้ และบอกว่าในพื้นที่ดังกล่าวผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีอิทธิพล และรู้จักคนมาก ตนก็ถามว่าพ่ออยู่ไหน คนดังกล่าวก็บอกว่าพ่อตนตายแล้ว ถูกกลุ่มคนที่นำโดยบังฟิต กับพวกอีก 7-8 คน ช่วยกันทำคดีนี้ ซึ่งตนมองว่าการใช้คำพูดว่าคดีนี้ คงไม่ใช่บุคคลธรรมดา ตนจึงถามว่าแล้วพ่อถูกฆ่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก็บอกว่าตั้งแต่วันที่ 3 ซึ่งทีแรกตนเองก็ยังไม่เชื่อ แต่ก็นำข้อความดังกล่าวบอกกับพี่สาว นำข้อมูลให้ตำรวจ ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็ติดต่อตนมาแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ส่วนคนที่แจ้งมาจะเป็น 1 ในทีมบังฟิต หรือไม่ ตนเชื่อว่าคนนี้อาจจะเห็นเหตุการณ์ และอาจจะหวังดีกับตนจริงๆ สุดท้ายเมื่อทราบว่าพ่อถูกฆ่าจริง ตนเองก็ช็อกไปเหมือนกัน.